7 เม.ย.65 หุ้นไทยปิดภาคเช้า ดัชนี SET อยู่ระดับ1,678.00 จุด ปรับลดลง 23.18 จุด หรือ -1.36% มูลค่าการซื้อขาย 55,246.92 ล้านบาท ดัชนีปรับสูงสุดอยู่ระดับ 1,694.23 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,674.81 จุด
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย ได้รับแรงกดดัน หลังธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟด ส่งสัญญาณจะใช้นโยบายการเงินตึงตัว โดยปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราเร่งมากขึ้น และลดขนาดงบดุล รวมถึงนักลงทุนยังกังวลต่อสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับตัวลง 5.6% หลุด 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ก็กดดันต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อดัชนีหุ้นไทยราว 3%
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงค่อนข้างแรงตามตลาดหุ้นทั่วโลก ปัจจัยกดดันหลัก มาจากการรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดือนมี.ค. เน้นย้ำเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการปรับลดขนาดงบดุลลงเดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์อย่างเร็วที่สุดในเดือนพ.ค.นี้ ขณะที่สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังยืดเยื้อกระตุ้นให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จึงเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยตามมา
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายคาดว่าตลาดฯยังน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบต่อไป โดยให้แนวรับที่ 1,670 และ 1,675 จุด แนวต้านที่ 1,680 และ 1,685 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดได้แก่