เนต้า ค่ายรถสัญชาติจีน ยื่นเข้ามาตรการหนุน EV

21 มี.ค. 2565 | 09:27 น.

สรรพาสามิตเผย เนต้า ค่ายรถสัญชาติจีน เตรียมเซ็นสัญญาเข้าร่วมมาตรการหนุนใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) เพิ่มเติม หลังนำร่องเซ็น 2 ค่ายรถยนต์ MG-GWM ประเดิมมาตรการหนุน EV ชี้มั่นใจทุกฝ่ายได้ประโยชน์

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิตเปิดเผยภายหลังพิธีลงนามข้อตกลงตามมาตรการสนับสนุนการใช้ รถยนต์ไฟฟ้า (EV)กับผู้ประกอบอุตสาหกรรมว่า มั่นใจว่า เงื่อนไขในการสนับสนุนมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) เป็นที่พอใจของทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค ซึ่งล่าสุดทางเนต้า ค่ายรถยนต์ จากประเทศจีน ได้ยื่นขอเข้าร่วมมาตรการแล้ว คาดว่า จะมีการลงนามความร่วมมือในเร็วๆนี้ และเชื่อว่า หลังจากนี้จะมี ค่ายรถยนต์ ทั้งจากจีน ญี่ปุ่นและยุโรป เข้าร่วมมาตรการอย่างต่อเนื่อง 

เนต้า ค่ายรถสัญชาติจีน ยื่นเข้ามาตรการหนุน EV

 

"ขณะนี้ กรมสรรพสามิต มีความพร้อมอยู่แล้ว ทางค่ายรถยนต์สามารถเข้ามาลงนามความตกลงได้เลย ซึ่งจะใช้เวลา 1-2 วัน ในการพิจารณาโครงสร้างราคา และหลังจากนั้นก็สามารถจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่ได้รับส่วนลด เริ่มต้นตั้งแต่ 1.5 - 2 แสนบาทต่อคัน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเงินส่วนลดที่รัฐบาลให้จะถึงมือผู้บริโภคโดยตรงจากราคาขายรถยนต์ที่ได้รับการอนุมัติจากกรมแล้ว" นายลวรณกล่าว

 

สำหรับมาตรการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ปีแรกรัฐบาลได้ตั้งงบประมาณไว้ที่ 3,000 ล้านบาท หากเม็ดเงินไม่เพียงพอ เชื่อว่า รัฐบาลพร้อมที่จะเพิ่มวงเงินให้ แต่คาดว่าปีนี้ จะใช้ในกรอบ 3,000 ล้านบาท และ ในอีก​ 3 ปีข้างหน้าอีก​ 4 หมื่นล้านบาท​ ซึ่งคณะกรรมการยานต์ไฟฟ้าได้มีมติให้กระทรวงการคลังหารือกับสภาพัฒน์เป็นผู้จัดหาแหล่งเงินกู้เชื่อว่า​ เม็ดเงินส่วนนี้จะเพียงพอกับปริมาณการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี)

เนต้า ค่ายรถสัญชาติจีน ยื่นเข้ามาตรการหนุน EV


ส่วนเงื่อนไขที่กำหนดผู้ประกอบการที่เข้าร่วมมาตรการ ต้องผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ในปีที่ 3 คืนในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 หรือเท่ากับจำนวนที่นำเข้ามาขายในช่วง 2 ปีแรก ส่วนปีที่ 4 จะต้องผลิตคืนในอัตราส่วน 1 ต่อ 1.5 หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขจะมีบทลงโทษ ตามเงื่อนไข ในเอ็มโอยู ตามที่ได้มีการเซ็นสัญญาไว้ เช่น เบี้ยปรับเงินเพิ่มจากภาษีอากรขาเข้า และภาษีสรรพสามิต

 

สำหรับการลงนามร่วมกับบริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัดแล้ว ผู้ประกอบอุตสาหกรรมทั้ง 2 รายจะได้รับสิทธิในการรับเงินอุดหนุนจากการจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า BEV โดยราคาที่แสดงในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ จะเป็นราคาขายปลีกแนะนำ ที่ได้รับเงินอุดหนุนตามมาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าแล้ว

 

ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งนี้ 

  • บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้นำรถยนต์ไฟฟ้า BEV มาจำหน่าย จำนวน 3 รุ่น ได้แก่
  1. ORA GOOD CAT 500 ultra
  2. ORA GOOD CAT 400 Tech
  3. ORA GOOD CAT 400 Pro  เนต้า ค่ายรถสัญชาติจีน ยื่นเข้ามาตรการหนุน EV

 

  • บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด ได้นำรถยนต์ไฟฟ้า BEV มาจำหน่าย จำนวน 3 รุ่น ได้แก่
  1. MG ZS EV
  2. MG EP 
  3. MG EP PLUS

เนต้า ค่ายรถสัญชาติจีน ยื่นเข้ามาตรการหนุน EV


นายณัฐกร​ อุเทนสุต ที่ปรึกษากรมสรรพสามิตกล่าวว่า​ ส่วนลดที่ประชาชนจะได้นั้น​ จะได้รับส่วนลดถึง​ 3 ต่อ

  • ต่อแรก​ คือ​ ส่วนลดจากอากรขาเข้าที่จะมีส่วนลดสูงสุดถึง​ 40% แล้วแต่กรณี​ อาทิ​ รถจากค่ายญี่ปุ่นได้รับส่วนอากรขาเข้า 20% ค่ายรถเกาหลี​ และยุโรป​ 40% ส่วนค่ายจีนจะไม่ได้เลย
  • ต่อที่สอง​ คือ​ ส่วนลดจากภาษีสรรพสามิตที่จะเหลือ​ 2% จาก​ 6% 
  • ต่อที่สาม​ คือ​ เงินอุดหนุนจากภาครัฐ​ตั้งแต่​ 7​ หมื่นบาท​ ถึง​ 1.5​ แสนบาท​ ขึ้นอยู่กับกำลังวัตต์​ โดยถ้าต่ำกว่า​ 30​ กิโลวัตต์​ ส่วนลดจะอยู่ที่​ 7​ หมื่นบาท​ ถ้ากำลังวัตต์มากกว่า​ 50​ ส่วนลดจะอยู่ที่​ 1.5​ แสนบาท


"เบ็ดเสร็จ​ ถ้าเป็นรถยุโรปราคามากกว่า​ 2 ล้าน​บาท​ หรือประมาณ​ 2.2​ล้านบาท​ จะได้รับส่วนลดถึง​ 4 แสนบาท​ ถ้าเป็นค่ายรถญี่ปุ่นราคาส่วนลดอาจได้ไม่ต่ำกว่า​ 3 แสนบาท​ ถ้าราคารถอยู่ที่​ 1 ล้านบาท​ ราคาที่ลดแล้วอาจจะอยู่ที่​ 7​ แสนบาท"นายณัฐกรกล่าว

 

นายณัฐกร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ในงานมอเตอร์โชว์ 2022 นี้ ค่ายเกรท วอล มอเตอร์ มีรถยนต์ไฟฟ้า พร้อมจำหน่าย 1,500 คัน ส่วนเอ็มจี อีก 500 คัน รวมเป็น 2,000 คัน นอกจากนี้ ยังมีค่ายรถอื่นๆที่แสดงความสนใจเข้าร่วมมาตรการอีก 8-9 ค่าย เช่น ค่ายจากยุโรป เบนซ์ บีเอ็มดับเบิลยู และค่ายจากญี่ปุ่น โตโยต้า ฮอนด้า มิซูบิชิ นิสสัน รวมถึงจากจีน ฟ็อกซ์คอนน์ และ เนต้า ที่ร่วมมือกับ บริษัท ปตท. จำกัดมหาชน เป็นต้น


ด้านนาย จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และบริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ยินดีที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของ มาตรการยานยนต์ไฟฟ้า คือในปี 2567 จะต้องผลิตรภยนต์ไฟฟ้า อัตราส่วน 1ต่อ1 คันจากที่จำหน่ายไปในปี 2565-2566 และ ในปี 2568 ผลิตคืนในอัตรา 1ต่อ1.5 คัน ส่วนจะผลิตเท่าไหร่ก็ต้องดูยอดขายและรุ่นรถที่จะจำหน่ายได้