“อาคม” เผย “สุพัฒนพงษ์” เตรียมคุยค่ายรถยนต์ แจงโครงสร้างภาษีใหม่

22 ก.พ. 2565 | 11:20 น.

“อาคม” เผย สัปดาห์หน้า “สุพัฒนพงษ์” เตรียมหารือค่ายรถยนต์ แจงโครงสร้างภาษีรถยนต์ตัวใหม่ เพื่อหนุนใช้รถยนต์ไฟฟ้าและลดการปล่อย Co2 พร้อมยอมรับกระทบรายได้รัฐลดลง แต่มั่นใจจะดึงการลงทุนในอุตสาหกรรม EV เพิ่มได้ และช่วยหนุนรายได้รัฐในอนาคตให้เพิ่มขึ้น

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังาน จะมีการหารือร่วมกับค่ายรถยนต์ เพื่ออธิบายถึงโครงสร้างภาษีรถยนต์ตัวใหม่ที่ออกมาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาก็มีการหารือร่วมกับค่ายรถยนต์แล้ว ซึ่งค่ายรถยนต์ต่างๆ ก็ให้การยอมรับ และมองอัตราภาษีใหม่ที่ออกมายังสามารถทำธุรกิจได้ และพร้อมที่จะลงทุนเพิ่ม เพราะมองว่าเป็นโอกาสในการแข่งขัน แต่หากใครที่ไม่สามารถผลิตชดเชยได้ สิทธิประโยชน์การอุดหนุนตรงนั้น ก็ต้องถูกพับไป

อย่างไรก็ตาม นายอาคม ยอมรับว่าการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ดังกล่าว จะทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีของรัฐลดลงไป แต่ในทางกลับกันก็จะเกิดการลงทุนใหม่ และการลงทุนเพิ่มเพื่อปรับเปลี่ยนระบบการผลิต ทั้งโรงงานที่ได้รับและไม่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI ซึ่งยังส่งผลต่อการจ้างงานให้เพิ่มขึ้น ดังนั้นอัตราภาษีจะกลับมาในรูปของภาษีเงินได้นิติบุคคล

 

ดังนั้นช่วงแรกรัฐบาลจึงจำเป็นต้องยอมแบกรับต้นทุนภาระส่วนนี้ เพื่อจูงใจให้เกิดการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา นอกจากนี้เมื่อมีการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนลงตามข้อผูกพันในปี 2030 ก็จะสามารถนำคาร์บอนที่ลดลง ไปซื้อขายเป็นคาร์บอนเครดิตได้  

“เมื่อเกิดการลงทุนและการจ้างงาน ก็จะเกิดเทคโนโลยีใหม่ๆขึ้นมา ผลสุดท้ายที่ได้กลับมาจะอยู่ในรูปแบบภาษีเงินได้บุคคล ก็จะทำให้รายได้โดยรวมของรัฐบาลเพิ่มขึ้น คือ สิ่งที่เป็นแนวทางในกาบริหารด้านภาษี เช่นเดียวกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์เมื่อ 30 ปีก่อน จนเกิดคลัสเตอร์อุตสาหกรรมที่เราเป็นศูนย์กลางการผลิตรถกระบะส่งออกไปต่างประเทศ ก็ทำให้มีรายได้ส่งกลับเข้ามาในประเทศ เพราะรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ได้ผลิตเพื่อขายในประเทศอย่างเดียว แต่เงื่อนไขยังอยู่ที่การผลิตเพื่อส่งออกด้วย ดังนั้นหากต้องการเป็นศูนย์กลางผลิตรถยนต์ เราจำเป็นต้องส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ไม่งั้นเราจะก้าวไม่ทัน จะถูกคนอื่นแซงไป” นายอาคม กล่าว  

 

อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

ด้านนายณัฐกร อุเทนสุต ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวว่า สำหรับงบประมาณในการอุดเงินรถยนต์ไฟฟ้า ในปีแรก จะใช้งบกลางประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนปีที่ 2 - 4 รวมอีก 4 หมื่นล้านบาทนั้น กระทรวงการคลังจะหารือร่วมกับสภาพัฒน์เพื่อหาแหล่งเงินสำหรับงบประมาณที่ต้องใช้ต่อไป