ดาวโจนส์ปิดบวก 104 จุด รับคองเกรสไฟเขียวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

08 พ.ย. 2564 | 23:49 น.

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้(8 พ.ย.) ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 104.27 จุด ขานรับสภาคองเกรสสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐให้แข็งแกร่งขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 36,432.22 จุด เพิ่มขึ้น 104.27 จุด หรือ +0.29%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,701.70 จุด เพิ่มขึ้น 4.17 จุด หรือ +0.09% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,982.36 จุด เพิ่มขึ้น 10.77 จุด หรือ +0.07%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดทำนิวไฮติดต่อกันเป็นวันที่ 8 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน วงเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งต่อให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป

โครงการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน เป็นหนึ่งในโครงการที่ปธน.ไบเดนให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โดยโครงการดังกล่าวจะรวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณในการก่อสร้างถนน สะพาน ทางรถไฟ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และโครงการอื่นๆ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในสหรัฐ

นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มวัสดุ เนื่องจากเชื่อว่าหุ้นเหล่านี้จะได้ประโยชน์จากการผ่านร่างกฎหมายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยหุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพิ่มขึ้น 4.09% 
 

หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้น หลังจากรัฐบาลสหรัฐอนุญาตให้ชาวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบโดสสามารถเดินทางเข้าสหรัฐได้นับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ เพิ่มขึ้น 0.76% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ขึ้น 1.97% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ บวก 0.81%

หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมัน 

นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันอังคารและวันพุธตามลำดับ

ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนต.ค.จากสหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ย., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน