ย้อนรอย ก.ล.ต.ฟัน กิตติ ธนากิจอำนวย อินไซด์หุ้น NOBLE

25 ส.ค. 2564 | 04:34 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ส.ค. 2564 | 12:38 น.

ย้อนรอย ก.ล.ต.ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 2 ราย "กิตติ ธนากิจอำนวย" และ "คงภัทร์ จิรมณีกุล" กรณีอาศัยข้อมูลภายในซื้อหุ้น NOBLE เรียกให้ชำระค่าปรับรวม 15.95 ล้านบาท พร้อมห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

กรณีนายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท ออกมาโพสต์ ระบุว่า นายกิตติ ธนากิจอำนวย เคยถูกกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่ง ในกรณีอินไซต์หุ้นโนเบิล

ฐานเศรษฐกิจ ได้ตรวจสอบพบว่าเมื่อเดือนพ.ค. 2563 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เปิดเผยการถึงดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดรวม 2 ราย ได้แก่ 

  1. นายกิตติ ธนากิจอำนวย กรณีเปิดเผยข้อมูลภายในเกี่ยวกับ บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) แก่บุคคลอื่น 
  2. นายคงภัทร์ จิรมณีกุล กรณีซื้อหุ้น NOBLE โดยรู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน 

ก.ล.ต. ให้บุคคลทั้ง 2 ชำระค่าปรับทางแพ่ง ส่งคืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิด และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดให้ให้แก่ ก.ล.ต. รวม 15,952,104 บาท และกำหนดระยะเวลาห้ามบุคคลทั้ง 2 เป็นกรรมการหรือผู้บริหาร

ทั้งนี้ ก.ล.ต.ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2561 นายกิตติได้รู้หรือครอบครองข้อมูลภายในเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหุ้น NOBLE ที่ราคา 12.25 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาด และนายกิตติซึ่งเป็นกรรมการและผู้บริหารของ NOBLE ในขณะนั้นได้เปิดเผยข้อมูลภายในดังกล่าวแก่นายคงภัทร์ (หลานเขยของนายกิตติ) โดยรู้หรือควรรู้ว่านายคงภัทร์อาจนำข้อมูลนั้นไปใช้ในการซื้อหุ้น NOBLE และนายคงภัทร์ได้ซื้อหุ้น NOBLE ในระหว่างวันที่ 4 -11 มิถุนายน 2561 จำนวน 4,088,600 หุ้น ก่อนมีการเปิดเผยข้อมูลภายในดังกล่าวต่อสาธารณะในวันที่ 12 มิถุนายน 2561 ทำให้นายคงภัทร์ได้รับผลประโยชน์จากกำไรในการซื้อหุ้น NOBLE เป็นเงินจำนวน 7,043,960 บาท

สำหรับการกระทำของนายกิตติซึ่งเป็นบุคคลที่รู้หรือครอบครองข้อมูลภายในของ NOBLE และได้เปิดเผยข้อมูลภายในแก่นายคงภัทร์ เป็นการฝ่าฝืนตามมาตรา 242(2) ประกอบมาตรา 243(1) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ที่แก้ไขโดยฉบับที่ 5 สำหรับการกระทำของนายคงภัทร์ที่ซื้อหุ้น NOBLE โดยรู้หรือครอบครองข้อมูลภายในที่ได้รับการเปิดเผยจากนายกิตติ เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 242(1) ซึ่งมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 296 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับนายกิตติและนายคงภัทร์ โดยให้ชำระเงินค่าปรับทางแพ่ง ส่งคืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิด และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดให้แก่ ก.ล.ต. ในส่วนของนายกิตติ คิดเป็นเงินรวม 653,795 บาท และนายคงภัทร์ คิดเป็นเงินรวม 15,298,309 บาท และกำหนดระยะเวลาห้ามนายกิตติและนายคงภัทร์ เป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลารายละ 12 เดือน 

ทั้งนี้ การกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์จะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่ง

หากผู้กระทำความผิดทั้ง 2 รายไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอให้ชำระค่าปรับทางแพ่งตามอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด ส่งคืนผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิด และชดใช้ค่าใช้จ่ายเนื่องจากการตรวจสอบการกระทำความผิดแก่ ก.ล.ต. รวมทั้งขอให้ศาลแพ่งกำหนดระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 2 เท่าของระยะเวลาที่ค.ม.พ. กำหนด และระยะเวลาห้ามเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์หรือศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์หรือเข้าผูกพันตามสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในศูนย์ซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามระยะเวลาสูงสุดที่กฎหมายกำหนด