สินเชื่อรถยนต์ครึ่งปีหด 20%

09 มิ.ย. 2564 | 22:00 น.

สมาคมเช่าซื้อเผย ยอดอนุมัติสินเชื่อครึ่งปี หด 15-20% ตามยอดขายรถยนต์ ลุ้นรัฐเร่งฉีดวันซีน คุมผู้ติดเชื้อได้ในอีก 3 เดือน ด้านตลาดรถมือสอง มองตลาดทรงตัว เหตุแบงก์เข้มปล่อยกู้ แม้คนซื้อยังมีอยู่

ตลาดรถยนต์ทั่วโลกโดนกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 กันถ้วนหน้า ปีที่ผ่านมายอดขายรถยนต์ทั่วโลกทำได้เพียง 63.8 ล้านคัน จากก่อนหน้าประเมินไว้ว่าปี 2563 จะมียอดขายรถแตะที่ 80 ล้านคัน  ไทยเองก็เช่นกันยอดขายรถยนต์รวมในปีก่อน ลดลงถึง 21% มียอดขายอยู่ที่ 792,146 คัน ลดลงจากปีก่อนหน้าที่สูงแตะ 1 ล้านคัน และช่วงต้นปีที่ผ่านมา เมื่อสถานการณ์ผ่อนคลายขึ้น ประเมินว่า ยอดขายรถยนต์ปีนี้น่าจะเติบโต 7-14% หรือ 8.5-9 แสนคัน

หลังการระบาดโควิด-19 ระลอก 3 ดูเหมือนสถานการณ์จะไม่เป็นเช่นนั้น  เพราะยอดขายรถยนต์ยังลดลง  โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า แม้สถานการณ์ตลาดรถยนต์ช่วงครึ่งหลัง จะทยอยฟื้นตัวขึ้น หลังคลี่คลายจากทั้งปัญหาโควิด-19 และการขาดแคลนชิ้นส่วนลงบ้าง แต่กำลังซื้อที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ขึ้นกับปัจจัยเรื่องการกระจายวัคซีน คาดว่า ยอดขายรถยนต์รวมปี 2564 นี้ อาจแกว่งอยู่ระหว่าง -1.5% ถึง 3.5%

นายวิสิทธิ์ พึ่งพรสวรรค์ ประธานกรรมการ สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทยเปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ”ว่า  ยอดอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อในครึ่งปีแรก หดตัวตามปริมาณการขายรถยนต์ที่ลดลงราว 20% แต่สมาชิกส่วนใหญ่ยังไม่ปรับเป้าหมายทั้งปีลง เพราะรอดูผลการเร่งฉีดวัคซีนในอีก 3 เดือนข้างหน้า หากสามารถควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อได้ คาดว่าความต้องการซื้อรถยนต์และสินเชื่อจะกลับมาเร็ว

สินเชื่อรถยนต์ครึ่งปีหด 20%

“ความเสี่ยงหลักตอนนี้ อยู่ที่การเร่งฉีดวัคซีน ซึ่งหากคุมจำนวนผู้ติดเชื้อให้ต่ำกว่าหลักพันรายได้ ความต้องการซื้อรถยนต์และสินเชื่อที่อั้นอยู่น่าจะกลับมาเร็ว ส่วนแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) ขณะนี้มีมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ช่วยประคองลูกหนี้ระดับหนึ่งอยู่แล้ว”นายวิสิทธิ์กล่าว 

ส่วนประเด็นอัตราค่าทวงถามหนี้นั้น นายวิสิทธิ์กล่าวว่า จริงๆ มีข้อตกเลงของธปท.และคณะกรรมการกำกับการทวงถามหนี้ (คกก.) แล้ว หลังจากหารือปีก่อน แต่ยังไม่ได้หารือกับธปท.เพิ่มเติม โดยรอนำเสนอต่อคกก.เพื่ออนุมัติ ในทางปฎิบัติบริษัทสมาชิกประกาศอัตราค่าทวงถามหนี้อยู่แล้ว แต่อาจจะมีต้นทุนดำเนินงานไม่เท่ากันในแต่ละแห่ง  

นายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการการรถยนต์ใช้แล้ว(Usedcar) หรือรถยนต์มือสองกล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ใช้แล้วในครึ่งแรกปี 2564 ยังทรงตัว แม้จะไม่เติบโตมาก แต่ไม่ถึงกับแย่นัก เพราะรถยนต์ใช้แล้วยังเป็นทางเลือกสำหรับประชาชน แต่การที่สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติ
สินเชื่อ ทำให้การทำตลาดไม่คล่องตัวเท่าที่ควร ซึ่งปีนี้ ความต้องการซื้อรถยนต์ใช้แล้วมีจำนวนมาก เพียงแต่ขอสินเชื่อไม่ผ่าน จึงทำให้ยอดขายรถยนต์ใช้แล้วทรงตัว

ส่วนแนวโน้มช่วงที่เหลือขึ้นกับการควบคุมสถานการณ์ของโควิด-19 และแนวโน้มของเศรษฐกิจด้วย โดยสมาคมฯ จะประเมินความต้องการซื้อรถได้ชัดเจนประมาณไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งต้นปีที่ผ่านมา คาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์ใช้แล้วปี 2564น่า จะมีความต้องการซื้อ 1.7-1.8 ล้านคันหรือคิดเป็นอัตราเติบโตราว 7% เมื่อเทียบจากปี 2563 ซึ่งความต้องการซื้อรถยนต์ใช้แล้วอยู่ที่  1.6 ล้านคัน 

“ที่สำคัญปีนี้ไฟแนนซ์และแบงก์เจ้าหนี้ไม่ค่อยยึดรถจากลูกค้า แต่เน้นการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับลูกค้ามากกว่า ทำให้ปริมาณรถยนต์ใช้แล้วเข้าสู่ตลาดน้อยลง แต่ข้อดีทำให้ราคารถยนต์ใช้แล้วขายได้ราคาแพงขึ้น”นายภิญโญกล่าว

นายธีรชาติ จิรจรัสพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัดกล่าวว่า ภาพรวมของยอดขายรถยนต์ปีนี้จะยังได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความสามารถและการตัดสินใจซื้อรถยนต์ แต่สัญญาณความต้องการซื้อรถยนต์และความต้องการสินเชื่อเช่าซื้อที่ปรับลดลงไตรมาส2และ3 น่าจะกระเตื้องกลับมา เมื่อสามารถกระจายฉีดวัคซีนได้มากพอ และน่าจะเห็นยอดขายรถยนต์สูงขึ้นในไตรมาส4 ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลขายรถยนต์ 

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,686 วันที่ 10 - 12 มิถุนายน พ.ศ. 2564