อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเปิดตลาด “แข็งค่า”ที่ระดับ 30.69บาท/ดอลลาร์

17 มี.ค. 2564 | 23:57 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มี.ค. 2564 | 10:15 น.

อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเปิดตลาด “แข็งค่า” วันนี้จะมีแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ทำให้สกุลเงินทั่วทั้งเอเชียฟื้นตัว

อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ 30.69 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ 30.80 บาทต่อดอลลาร์  ประเมินกรอบเงินบาทระหว่างวัน 30.60-30.80 บาทต่อดอลลาร์

ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์     หัวหน้าทีมกลยุทธ์การลงทุน EASY INVEST บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS)ระบุว่าตลาดการเงินอยู่ในโหมดเปิดรับความเสี่ยง (Risk On) ในคืนที่ผ่านมา หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ไม่เปลี่ยนนโยบายการเงินเพราะมองว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวสูง

 

ประเด็นสำคัญจากการประชุม FOMC ครั้งนี้คือเฟดเลือก “คง” ดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.00-0.25% ตามเดิม “คง” ปริมาณการซื้อพันธบัตร 8หมื่นล้าน และ MBS และ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน ส่วนในฝั่งของการประมาณตัวเลขเศรษฐกิจ เฟดส่งสัญญาณว่าจะเห็นจีดีพีสหรัฐขยายตัวถึง 6.5% ในปีนี้ ขณะที่การว่างานคาดว่าจะลดต่ำลงถึงระดับ 4.5% โดยมีเงินเฟ้อพื้นฐานที่จะปรับตัวสูงขึ้นเป็น 2.2% จากเดิม 1.8% ส่วนคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plots) คณะกรรมการ 4 จาก 18ท่าน มองว่าสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ภายในปี 2022 และ 7 จาก 18ท่าน เชื่อว่าการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกจะเกิดขึ้นในปี 2023

ภาพนโยบายการเงินดังกล่าวหนุนให้ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้น 0.29% เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจกลับมาขยายตัวได้แล้ว แตกต่างจากในฝั่งยุโรป ที่ดัชนี STOXX 600 ย่อตัวลง 0.45% หลังนักลงทุนขายทำกำไรเมื่อดัชนีทำจุดสูงสุดใหม่

 

ภาพนโยบายการเงินและการตอบรับของตลาดหุ้น หนุนให้บอนด์ยีลด์สหรัฐอายุสิบปีขยับขึ้นมาที่ระดับ 1.64% ส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างยีลด์สหรัฐอายุสองปีและสิบปีขยับขึ้นมาถึง 1.46% สูงที่สุดนับตั้งแต่กันยายนปี 2015 สะท้อนภาพนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ขณะที่นักลงทุนกลับเข้าสู่ตลาดมากขึ้น

 

ตลาดที่เปิดรับความเสี่ยง กดดันให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.4% ทันที โดยสกุลเงินความเสี่ยงสูงอย่างดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) และดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) ต่างปรับตัวขึ้น 0.6-0.7% ดัชนี VIX Index ปรับตัวลงต่ำกว่า 20จุด ครั้งแรกในรอบปี โดยที่บิทคอยน์กลับมาซื้อขายเหนือระดับ 58000 ดอลลาร์ และราคาทองคำขยับขึ้นมาที่ 1748 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ด้านอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาท เชื่อว่าวันนี้จะมีแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ทำให้สกุลเงินทั่วทั้งเอเชียฟื้นตัว อย่างไรก็ดีในระยะถัดไปยังต้องจับตาทิศทางของบอนด์ยีลด์สหรัฐและไทยอยู่ เนื่องจากเงินเฟ้อในสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าไทย แต่ในปัจจุบันส่วนต่างระหว่างยีลด์ของสองประเทศมีไม่มาก จึงมีความเป็นไปได้ที่เงินทุนต่างชาติอาจกลับเข้ามาในประเทศไทยช้า เพราะฝั่งสหรัฐมีทั้งตลาดทุนที่น่าสนใจและมีผลตอบแทนของการถือสินทรัพย์ปลอดภัยดีกว่าในปีนี้

 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทเช้านี้ (18 มี.ค.) "แข็งค่า"มาอยู่ที่ระดับ 30.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวันก่อนหน้าที่ 30.79 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยเงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขาย หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยังคงส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างต่อเนื่อง โดยคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.00-0.25% และยืนวงเงิน QE ที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ต่อเดือนตามที่เดิม แม้ว่าจะมีการปรับประมาณการจีดีพีปีนี้ ดีขึ้นมาที่ 6.5% ก็ตาม ขณะที่ในส่วนของ dot plot สะท้อนว่า เฟดจะไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย โดยน่าจะยืนดอกเบี้ยต่ำไปจนถึงปี 2565 

 

สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ คาดไว้ที่ 30.35-31.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ รวมถึงผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ