วิริยะประกันภัย” เปิดเกมรุกปี 64 เลือก 3บริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกร่วมวางแผน5ปี มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีระดับ Deep Tech

10 มี.ค. 2564 | 12:08 น.

วิริยะประกันภัย” เปิดเกมรุกปี 64 ยกระดับบริการหลังการขาย ย้ำทุนแกร่งกว่า 224%พร้อมตอบสนองลูกค้าทั้งมอเตอร์และนันมอเตอร์เต็มสูบ

วิริยะประกันภัย” เปิดเกมรุกปี 64 เลือก 3บริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกร่วมวางแผน5ปี มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีระดับ Deep Tech ยกระดับ สถาปัตยกรรม-สารสนเทศและนวตกรรม -ยกระดับบริการหลังการขาย ย้ำทุนแกร่งกว่า 224%สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน พร้อมตอบสนองลูกค้าทั้งมอเตอร์และนันมอเตอร์เต็มสูบ

วิริยะประกันภัย” เปิดเกมรุกปี 64 เลือก 3บริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกร่วมวางแผน5ปี มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีระดับ Deep Tech

            นายอมร ทองธิว กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี2564 นี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด ภายใต้แผนธุรกิจปี 2564 “Customer Centric : องค์รวมประสบการณ์ แห่งการเป็นอันดับ 1 ในใจลูกค้าตลอดกาล” อันเป็นผลมาจากความชัดเจนในนโยบายของบริษัทว่า วิริยะประกันภัยมองเรื่อง Customer Centric เป็นหลัก ไม่ได้มองเรื่องยอดขาย ไม่ได้มองว่าจะบุกตลาดอะไรอย่างไร และที่สำคัญ Philosophy ที่วิริยะประกันภัยใช้มาตลอด คือ ทำหน้าที่บริการ เป็นหลักประกันสังคม ทำบริการให้ดี ลูกค้าพึงพอใจส่งต่อความพึงพอใจ ลูกค้าบอกต่อเป็น Word of Mouth  การใช้เทคโนโลยีตอบโจทย์ Customer Centric

“ต้องตอกย้ำว่าถึงแม้เราจะมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยี แต่เราก็ไม่ทิ้งคน เรามีคนในเครือข่าย 76 จังหวัด บุคลากรกว่า 6,500 คน พนักงานเคลมสินไหมกว่า 2,000 คน เรามองเป็นจุดแข็ง Touch Point ซึ่งบุคลากรเหล่านี้เราต้องเพิ่มศักยภาพให้กับเขา ติดเทคโนโลยีให้เขา เพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อสามารถบริการลูกค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็วขึ้น” นายอมร กล่าว

โดยเฉพาะด้าน การพัฒนาเทคโนโลยีในปีนี้ บริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท โดยเลือก 3บริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกมาร่วมกันพัฒนา คือ Oracle และ MuleSoft  อีกทั้งยังได้เลือก Microsoft เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและความปลอดภัยทางเทคโนโลยี โดยกำหนดเป็นแผนงานที่จะดำเนินการต่อเนื่องภายใน 5 ปี เพื่อ การปรับสถาปัตยกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อให้แพลตฟอร์มต่างๆ ที่ได้จัดทำขึ้นมาก่อนหน้า และที่กำลังจะจัดทำ เกิดการเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวหรือกล่าวง่ายๆ เชื่อมต่อทุกคนทำงานด้วยข้อมูลชุดเดียวกัน และเป็นเรียลไทม์

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นั้นก็คือโครงการ Project Oracle ERP ภายใต้ชื่อคอนเซ็ปต์  Viriyah One Finance and  Accounting “ VFin”  อันเป็นการเชื่อมโยงระบบการเงิน บัญชี เป็นหนึ่งเดียว สามารถบริหารจัดการตรวจสอบ การจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญทำให้ระบบการจ่ายสินไหมทดแทนรวดเร็วขึ้น

 

 

ส่วนผลประกอบการ นายอมรเปิดเผยว่าในปี 2563 วิริยะประกันภัยมีผลประกอบการที่พอใจ ด้วยเบี้ยรับรวมกว่า 38,143 ล้านบาท แยกเป็นเบี้ยประกันภัยรถยนต์ (Motor) 33,315 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non-Motor) 4,827 ล้านบาท ในขณะที่ความมั่นคงของบริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 เช่นเดียวกัน วิริยะประกันภัยยังมีฐานะการเงินที่เข็มแข็ง มีสินทรัพย์ 76,149 ล้านบาท มีเงินกองทุน 41,219 ล้านบาทหรือคิดเป็นอัตราส่วนความพอเพียงของเงินกองทุนอยู่ที่ 224.70% สูงเกินกว่าค่ามาตรฐานที่กฏหมายกำหนดไว้ที่ 120%

 

นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทยังให้น้ำหนักกับงานบริการหลังการขาย เพราะต้องการสร้างความพึงพอใจและความผูกพันที่ยังยืนกับลูกค้า โดยพัฒนาจุดบริการให้ครอบคลุมทั่วไทยมากขึ้น นอกจากจัดตั้งศูนย์ตรวจสอบอุบัติเหตุในพื้นที่ที่เป็นรอยต่อของจังหวัด ในปีนี้ จะจัดตั้งเป็นจุดบริการ “จุดรอตรวจสอบอุบัติเหตุ”โดยเช่าพื้นที่ในปั๊มน้ำมัน เพื่อให้พนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุไปนั่งทำงานผ่านสมาร์ทโฟนซึ่งสามารถคีย์งานบนมือถือดูแลลูกค้าได้ฉับไว ตั้งแต่ออกตรวจอุบัติเหตุให้คำแนะนำไปยังศูนย์ซ่อมหรือเลือกศูนย์ซ่อมและออกหลักฐานผ่านมือถือให้ลูกค้านำไปติดต่อยังศูนย์

วิริยะประกันภัย” เปิดเกมรุกปี 64 เลือก 3บริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกร่วมวางแผน5ปี มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีระดับ Deep Tech

            “ปีนี้จะเริ่มการพัฒนาพนักงานที่ด้านสินไหมทดแทนจัดทำหลักสูตร “V-Shine” เพื่อให้พนักงานตระหนักถึงบทบาทและเกิดทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งผลจากการเอาใจใส่ดูแลลูกค้าอย่างไม่ทอดทิ้งลูกค้าและคู่ค้า เห็นได้จากอัตราการต่ออายุกรมธรรม์สูงกว่า 70%แม้ว่ายอดประกันภัยรถป้ายแดงลดลง ที่สำคัญเรายังมีพันธมิตที่แข็งแกร่งและมั่นคง”

นางฐวิกาญจน์ เตชทวีทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าด้านการประกันภัย Non-Motorปีนี้  วิริยะประกันภัยยังคงขยายแผนงานประกันภัยสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยจะขยายช่องทางการตลาดทางตรง เป็น 180 อัตราภายในสิ้นปี ทั้งการตลาดทางโทรศัพท์ และการตลาดประจำบูธต่างๆ และยังคงเน้นการสรรหา พันธมิตร และ คู่ค้า ควบคู่ไปกับการพัฒนาช่องทางการขายผ่านตัวแทน โดยได้วางแผนพัฒนาระบบเพื่ออำนวยความสะดวก เพื่อให้ตัวแทนได้ใช้เป็นเครื่องมือในการขยายงานด้านประกันภัยสุขภาพ แบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น  รวมถึงการพัฒนา Health Advisory การบริการให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า ก่อน ระหว่าง และหลังการรักษาพยาบาล ให้ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีที่แล้ววิริยะประกันภัยได้มีการเปิดตัว แบบ Soft Launch เพื่อช่วยลูกค้าได้วางแผนการรักษาและค่าใช้จ่ายให้เหมาะสมกับความคุ้มครอง และตรงตามความต้องการของลูกค้า

วิริยะประกันภัย” เปิดเกมรุกปี 64 เลือก 3บริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกร่วมวางแผน5ปี มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีระดับ Deep Tech
 

โดยได้เริ่มการบริการ ให้กับ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มโรคที่เกิดขึ้นเฉียบพลัน เช่น โรคทางเดินหายใจส่วนบนส่วนล่าง โรคหวัด หรือ การเกิดอุบัติเหตุ กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มโรคไม่ติดต่อแต่เรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง โดยในปีนี้เรามีการวางแผนจะเปิดบริการให้กับกลุ่มที่สาม คือ กลุ่มโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โดยเป้าหมายของเรา คือการดูแลลูกค้าให้มีสุขภาพที่แข็งแรงและมีชีวิตที่ยืนยาว นอกจากนี้ยังได้มีการวางแผนพัฒนาระบบการจัดการกรมธรรม์ และการจัดการสินไหมให้มีประสิทธิภาพ และเพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมีแผนเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่โดยหวังที่จะให้ครอบคลุมและตอบโจทย์ลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่า  ผลิตภัณฑ์ประกันภัยสุขภาพเฉพาะโรค เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ด้วยเงื่อนไขการรับประกันภัยที่ยืดหยุ่นมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงแผนประกันภัยโควิด-19 ซึ่งจะเพิ่มผลประโยชน์ความคุ้มครองในภาวะโคม่าสำหรับการแพ้วัคซีน รวมถึงแผนประกันสุขภาพและอุบัติเหตุอีกหลายผลิตภัณฑ์ที่เราตั้งใจจะปรับโฉมให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยแผนทั้งหมดนี้จะสอดคล้องตามแผนงานการเติบโตด้านประกันภัยสุขภาพ ให้เป็นไปตามเป้าหมายของเราที่จะคุ้มครองและดูแลลูกค้า ด้วยผลิตภัณฑ์ และการบริการที่ดีที่สุด ด้วยความจริงใจ และเป็นธรรม

            ทั้งนี้ ภาพรวมผลงานที่ผ่านมา วิริยะประกันภัยสามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดเบี้ยประกันภัยรับตรง ด้าน Non-Motor เป็น 4.5% จาก สัดส่วน 4.1% ในปีก่อนหน้า โดยมีเบี้ยรับประกันภัยอยู่ที่ 4,827 ล้านบาท และนอกจากนี้ยังคงสามารถเพิ่มสัดส่วนงานประกันภัย Non-Motor ให้มีสัดส่วนที่ 12.65% ของเบี้ยประกันภัยรับรวมของบริษัทฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2562 อยู่ที่ 10.48%

“ในส่วนของการประกันภัย Non-Motor ด้านประกันภัยสุขภาพ เราสามารถเติบโตได้ถึง 317.85%  สืบเนื่องจากการออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยโควิด-19 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะแผน “ประกันโควิด-19 ชีลด์”  ซึ่งวิริยะเป็นอันดับต้นๆ ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์นี้สู่ตลาด และผลิตภัณฑ์นี้ยังได้รับรางวัลสุดยอดนวัตกรรมแห่งปีอีกด้วย นอกจากนี้เรายังเปิดตัวแผนประกันสุขภาพ “Viriyah Healthcare by BDMS” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “คุ้มครอง คุ้มค่า ราคาเพื่อคนไทย” ซึ่งเป็นแผนประกันที่เรามีความตั้งใจให้ค่าเบี้ยจับต้องได้ และความคุ้มครองเข้าใจง่าย แบบเหมาจ่าย ไม่ซับซ้อน ตาม  คอนเซ็ปต์ ประกันภัยสุขภาพจากวิริยะ” นางฐวิกาญจน์ กล่าว