กสิกรไทย มั่นใจPrivate Banker ตอบโจทย์เก็บ สร้าง ส่งมอบความมั่งคั่ง

26 ก.ค. 2562 | 13:45 น.

อัตราการเติบโตของสินทรัพย์ทั่วโลกที่เคยขยายตัว 6-8% แต่สินทรัพย์การลงทุนกลับติดลบเป็นปีแรกเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา แม้เศรษฐกิจโลกไม่ได้ตกต่ำลง สะท้อนวงจรเศรษฐกิจจะมีปีที่แย่ในแต่ละรอบ กินเวลา 3 ปี 5 ปี หรืออาจจะ 10 ปี ทำ ให้คนรวย รวยน้อยลง ประกอบกับ การฝากเงินที่ไม่ตอบโจทย์โดยเฉพาะบนความผันผวนและมีความเสี่ยง การแสวงหาผลตอบแทนที่ยากขึ้น ทำให้ผู้บริหารความมั่งคั่ง ยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มคนผู้มีสินทรัพย์สูง

กสิกรไทย มั่นใจPrivate Banker ตอบโจทย์เก็บ สร้าง ส่งมอบความมั่งคั่ง

นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เศรษฐกิจโลกผ่านจุดตํ่าสุดมาแล้ว 10 ปี ขณะนี้จึงเป็นความระแวงว่า เศรษฐกิจจะครบวัฏจักรหรือยัง ซึ่งครั้งนี้ขึ้นกับผู้นำเศรษฐกิจโลก เมื่อเห็นสัญญาณ “เซ” แล้วจะเป็นผู้กำหนดนโยบายได้ทันท่วงทีหรือไม่

ดังนั้นการสร้างความมั่งคั่งในสภาวะความไม่แน่นอน ถ้าเข้าใจวงจรธุรกิจหรือเศรษฐกิจ โอกาสประสบความสำเร็จก็จะสูง ซึ่งกสิกรไทยเป็นแชมป์ในการลงทุนระยะยาว 3 ปี 5 ปี หรือ 7 ปี ขึ้นไป เพราะเกมการลงทุนต้องหาระยะเวลาที่เหมาะสม โดยเฉพาะถ้าสามารถถือครองการลงทุนให้ครอบคลุมช่วงระยะเวลาหนึ่ง ไม่ใช่ซื้อๆขายๆ โอกาสที่จะติดลบหรือเงินต้นหาย ก็จะถอยห่างและด้วยประสบการณ์ส่งมอบผลตอบแทนกับผู้คาดหวังทั้งระดับบุคคล หรือกองทุนขนาดใหญ่ผ่านองค์กรต่างๆระดับโลก จากการคลุกวงในบริหารจัดการทรัพย์สิน จึงตกผลึกด้านไพรเวต แบงก์เกอร์รวมถึงการจับมือกับกับลูกค้าเพื่อเดินผ่านวิกฤติ

 

 

ที่ผ่านมา กสิกรไทยจะเน้นลงทุนระยะยาว โดยพิจารณาจากสินทรัพย์ จัดพอร์ตลงทุนใน 3 ส่วนตามวัตถุประสงค์เช่น ทรัพย์สภาพคล่อง 15% หรือเก็บออมระยะปานกลาง 70% และส่วนเกิน 15% โดยส่วนแรกเป็นเงินสภาพคล่อง เพื่อใช้ระยะสั้นที่ต้องการผลตอบแทน ส่วนที่ 2 เป็นเงินเก็บระยะกลางถึงระยะยาว ที่ต้องการผลตอบแทนชนะดอกเบี้ยหรือเงินเฟ้อ ซึ่งการบริหารจัดการต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะตัว ยกเว้นส่วนที่3 ซึ่งเป็นเงินส่วนเกินที่ต้องการได้เสีย แต่ในมุมมองของไพรเวต แบงก์เกอร์จะต้องบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม ไม่ใช่เพียงแค่ซื้อเช้าขายเย็นเท่านั้น

ส่วนอะไรคือจุดที่ลูกค้าเลือกใช้บริการกสิกรไทย ซึ่งเป็นแบรนด์โลคัลนั้น “จิรวัฒน์” บอกว่า วันนี้เราเป็นส่วนหนึ่งกับบริการต่างชาติ โดยทำงานไร้รอยต่อกับลอมบาด ซึ่งมีกว่า 223 ปี คุณสมบัติของทีมที่เมืองไทยจึงเทียบเท่าไพรเวต แบงก์เกอร์ ต่างประเทศ ซึ่งไม่แตกต่างกับแบรนด์ฝรั่งที่ใช้คนไทยทำ

“สิ่งที่คนถามว่า....ใช้คนไทยทำจะดีหรือ เพราะคนเชื่อว่า สัญชาติอื่นเก่งกว่าสัญชาติไทย เช่นเดียวกับคนนิยมแบรนด์ ต่างประเทศ เมื่อทุกคนอยากได้บริการที่มีคุณภาพสูง เราต้องพิสูจน์ว่าคนของเรามีคุณภาพไม่ด้อย ที่สำคัญเรื่องของการลงทุนซึ่งมีความซับซ้อนไม่ใช่ลูกค้าทุกคนที่อยากจะคุยภาษาต่างประเทศ”

 

“จิรวัฒน์” ยังแนะนำผู้ลงทุนบริหารความเสี่ยงว่า แม้ผลตอบแทนจะปรับลดลงบ้าง แต่ควรเลือกลงทุนให้เหมาะกับสภาวการณ์ โดยเฉพาะลงทุนในหุ้นจีน ซึ่งกสิกรไทยจะมีสูตรตายตัวให้ผู้จัดการกองทุนปรับพอร์ตถือเงินสดแทนโดยลูกค้าไม่ต้องนั่งดูพอร์ต หรือการคุ้มครองเงินต้นเชิงทฤษฎี 2-3 ปีที่ลงทุน หรือโปรดักต์ลงทุนในหุ้นกู้ ตลาดเกิดใหม่ หุ้นโลกที่มีความเสี่ยงสูงเมื่อเทียบกับพันธบัตรรัฐบาล แต่จะมีทางเลือกที่กระจายการลงทุน 127 ตัว ดังนั้น แม้สถาน การณ์ตลาดหุ้นตลาดเงินโลกผันผวน โอกาสเสียหายจะไม่มาก

การลงทุนเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่ง กสิกรไทยให้ความสำคัญในการหาทางเลือกเพื่อตอบโจทย์ทั้งความลึกและครอบ คลุมทั้ง 3 มิติคือ การเก็บรักษาทรัพย์สินของลูกค้า การสร้างอัตราการเติบโตของทรัพย์สินให้งอกเงย รวมถึงการส่งมอบมรดกและความมั่งคั่งให้กับทายาทแต่ละช่วงวัย (GEN) ด้วย  

 

หน้า 19-20 หนังสือฐานเศรษฐกิจปีที่ 39 ฉบับที่ 3,490 วันที่ 25 - 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2562