บลจ.พรินซิเพิล เพิ่มทุน PRINCIPAL iPROP 1.5 หมื่นล้านบาท ชี้จังหวะดีลงทุนในสินทรัพย์จ่ายปันผล รับภาวะตลาดครึ่งปีหลัง ยังไม่แน่นอนจากแนวโน้มเศรษฐกิจผันผวน
นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) พรินซิเพิล จำกัดเปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทมองว่า ยังมีความไม่แน่นอนจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ผันผวน จากประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ(FOMC)ล่าสุด แม้มติให้คงดอกเบี้ยนโยบาย ด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 1 แต่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานธนาคารกลางสหรัฐของเซนต์หลุยส์ แสดงมุมมองต่ออัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯที่เหมาะสมว่า ควรอยู่ในระดับต่ำกว่าปัจจุบัน 0.25% จึงเพิ่มความเป็นไปได้ต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในอนาคต
ส่วนประเด็นความขัดแย้งจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ยังเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามต่อ ภายหลังการพบกันของสองผู้นำ ‘นายโดนัล ทรัมป์’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ’นายสีจิ้น ผิง’ ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนในการประชุม G20 ที่ญี่ปุ่นออกมาดีตามคาด
“จากปัจจัยดังกล่าว เรามองว่า จะส่งผลดีต่อการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีลักษณะเป็น Yield Play Assets หรือ สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผล ซึ่งรวมถึงสินทรัพย์ในกลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) และกองรีทส์ (REITs) โดยดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกที่อยู่ในระดับต่ำดึงดูดกลุ่มนักลงทุนหลายกลุ่มที่มุ่งแสวงหาผลตอบแทน(Search for Yield) เข้าลงทุนใน Property Fund และ REITs ที่จ่ายเงินปันผลจากกระแสเงินสดเฉลี่ย 4.6%–5.4% ต่อปี เพื่อช่วยลดผลกระทบเชิงลบในช่วงที่ตลาดลงทุนเกิดความผันผวน”
ดังนั้น บริษัทจึงแนะนำทยอยลงทุนในกองทุนเปิดพรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัม หรือ Principal Property Income Fund (PRINCIPAL iPROP) ในสัดส่วน 10-20% ของพอร์ตลงทุนรวม เพื่อกระจายความเสี่ยงและสร้างผลตอบแทนในภาวะที่ตลาดการเงินโลกยังไม่ชัดเจน โดยเมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา กองทุน PRINCIPAL iPROP ได้รับอนุมัติเพิ่มทุนจาก 1.5 หมื่นล้านบาทเป็น 3 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับนักลงทุนให้สามารถเข้าซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มเติม
ทั้งนี้กองทุน PRINCIPAL iPROP มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์หรือตราสารหมวดอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ทั้งในและต่างประเทศ สามารถสร้างผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปีนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนฯ และจ่ายปันผลต่อเนื่องทุกไตรมาส นับตั้งแต่ไตรมาส 2/2555 ปัจจุบันจ่ายปันผลแล้ว 29 ครั้ง รวม 5.66 บาทต่อหน่วย โดยครั้งนี้กองทุนได้ประกาศจ่ายเงินปันผลกองทุน PRINCIPAL iPROP-D และรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติสำหรับกองทุน PRINCIPAL iPROP-R ในอัตราหน่วยละ 0.25 บาท สำหรับงวดบัญชี 31 พฤษภาคม ให้กับผู้ที่ถือหน่วยลงทุนกองทุนดังกล่าวก่อนวันที่ 28 มิถุนายน