ออมสิน ลงทุนถือหุ้น 25% บล.เอเอสแอล จับมือแนะนำลูกค้า ปั้น Banker to Broker เพิ่ม Product ให้ครบวงจรมากขึ้น
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคาร ออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ลงนามบันทึกความร่วมมือการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ร่วมกันกับนายชาญชัย กุลถาวรากร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเอสแอล จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ และร่วมกันให้บริการดูแลลูกค้าทั้งในด้านหลักทรัพย์และผลิตภัณฑ์ทางการเงินทุกกรูปแบบ ที่พร้อมอำนวยความสะดวกบน Platform ที่เชื่อมต่อกันระหว่างธนาคารออมสินและบริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด
นายชาติชาย กล่าวว่า ตามแผนการลงทุนปี 2561-2562 (Strategic Investment)ของธนาคาร จะเน้นลงทุนในธุรกิจที่มีโอกาสสร้างผลประโยชน์ส่วนเพิ่ม และไม่เป็นการแข่งขันกับธุรกิจของธนาคาร โดยได้พิจารณาถือหุ้นสัดส่วนที่เหมาะสมในธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อให้เกิดประโยชน์ส่วนเพิ่มในการลงทุน (Synergy) เป็นการพัฒนาธุรกิจร่วมกันในระยะยาว รวมถึงสนับสนุนการดำเนินธุรกิจแบบครบวงจรมากขึ้น และเพิ่มช่องทางในการให้บริการแก่ลูกค้า
“ธนาคารฯ จะถือหุ้นในสัดส่วน 25% ใน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด หรือ ASL ส่งผลให้ธนาคารออมสินสามารถร่วมกำหนดนโยบายในการดำเนินธุรกิจของ ASL ให้สอดคล้องกับทิศทางของธนาคารออมสินได้ในอนาคต โดยได้จัดทำแผนดำเนินธุรกิจร่วมกันตามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ความร่วมมือ “การดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์ร่วมกัน”
ทั้งนี้ ปี 2562 ธนาคารออมสินมียุทธศาสตร์การพัฒนาและยกระดับสู่การเป็น Digital Banking ซึ่งมีแผนสร้างและพัฒนา New Business Model ร่วมกับพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการพัฒนานวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ในรูปแบบดิจิทัล ดังนั้นการลงทุนและร่วมมือกับ ASL จะทำให้สามารถนำระบบการซื้อขายหลักทรัพย์ของ ASL มาผนวกกับ Digital Platform ของธนาคารออมสิน เพื่อสนับสนุนการเป็น Digital Banking ได้ในอนาคต
สำหรับ MOU จะกำหนดขอบเขตความร่วมมือระหว่างธนาคารและ ASL ที่จะร่วมกันศึกษาแนวทาง และความเป็นไปได้ในการพัฒนาธุรกิจ เพิ่มช่องทางการซื้อขายหลักทรัพย์ผ่าน Platform ของธนาคาร เพื่อให้ลูกค้าทั้งลูกค้ารายย่อย ลูกค้ารายใหญ่ และลูกค้าสถาบัน สามารถเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ และทำธุรกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหลักทรัพย์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าของทั้งธนาคารออมสินและ ASL นั้น เป็นกลุ่มที่ใกล้เคียงกัน จึงทำให้ธนาคารฯ สามารถขยายผลิตภัณฑ์ด้านการซื้อขายหลักทรัพย์ไปยังกลุ่มลูกค้าดังกล่าวได้ โดยจะเป็นการเพิ่มทางเลือกในการลงทุนที่นอกเหนือไปจากผลิตภัณฑ์ประเภทเงินฝาก สลากออมสิน และกองทุนรวม โดยธนาคารกำหนดเป้าหมาย Banker to Broker ให้พนักงานธนาคารออมสินสามารถนำเสนอขายผลิตภัณฑ์และบริการด้านการลงทุนในหลักทรัพย์ให้ลูกค้าได้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมอีกช่องทางหนึ่ง
ด้านนายชาญชัย กล่าวว่า บริษัทฯมีเป้าหมายเน้นบริการซื้อขายหลักทรัพย์บนออนไลน์ ซึ่งการที่ออมสินมาถือหุ้น 25% เพราะทั้งสองฝ่ายเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินบนออนไลน์ร่วมกัน ทั้งด้านการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นของทั้งฝ่าย รวมถึงฟังก์ชั่นในการบริการด้านหลักทรัพย์ต่างๆ ที่ครบวงจร ซึ่งในอนาคตลูกค้าที่มาใช้บริการผ่านธนาคารออมสินสามารถเข้าถึงธุรกรรมหลักทรัพย์บนแอปพลิเคชั่นของธนาคารฯ ได้ ซึ่งจะอำนวยความสะดวกในเรื่องของการเปิดบัญชีออนไลน์ รวมทั้งเครื่องมือในการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ไว้ในที่เดียวกันเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการ รวมถึงการแนะนำผลิตภัณฑ์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ เป็นการส่งเสริมองค์ความรู้ และสร้างโอกาสใหม่ๆ ในอนาคต ซึ่งการขยายธุรกรรมทั้งหมดจะอยู่บนระบบออนไลน์ เพื่อจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่น ภาพลักษณ์ที่ดี และเป็นประโยชน์กับประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้ การขยายตัวผ่านธนาคารออมสินเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด จากสาขาธนาคารออมสินมีถึง 1,116 สาขา และมีพนักงานที่มีใบอนุญาตมากกว่า 1,500 คน ซึ่งหากขยายตัวผ่านทางสาขาของธนาคาร จะทำให้บริษัทนั้นเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยจะเห็นได้จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2015 ที่เอเอสแอลเริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน การซื้อขายของนักลงทุนผ่านระบบออนไลน์ เพิ่มขึ้นถึง 6 แสนบัญชี สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนที่ซื้อขายผ่านบนออนไลน์เติบโตมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้บริษัทมั่นใจว่า การดำเนินธุรกิจแบบออนไลน์ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ด้วยความร่วมมือกับธนาคารออมสินจะช่วยให้เป้าหมายมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นด้วย