สตางค์ ผุด Satang App ปีนี้ เก็บคริปโตเคอเรนซี่

23 เม.ย. 2562 | 11:40 น.

สตางค์โปร เดินหน้าพัฒนา Satang App- Satang Shop ภายในปีนี้ เปิดทางเก็บคริปโตเคอเรนซี่ ใช้ในชีวิตประจำวันได้

               นายปรมินทร์ อินโสม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดและผู้ก่อตั้งพัฒนา ZCoin สกุลเงินดิจิทัลอันดับ 67 ของโลกเปิดเผยว่า ประเทศไทย ถือเป็นประเทศที่มีพัฒนาการก้าวหน้าด้านสินทรัพย์ดิจิตัลและคริปโตเคอเรนซี่เป็นอย่างมาก ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กำลังทดสอบโครงการเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่ถูกสร้างโดยธนาคารเองชื่อ ‘อินทนนท์’ ซึ่งเป็นโครงการทดสอบระบบการโอนเงินระหว่างสถาบันการเงินโดยการใช้สกุลเงินดิจิตัลจำลองที่ธนาคารกลางเป็นผู้ออก

สตางค์ ผุด Satang App ปีนี้ เก็บคริปโตเคอเรนซี่

               ทั้งนี้ธนาคารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ต้องปรับตัวรับมือกับเทคโนโลยีตลอด สังเกตได้จากสถิติการใช้แอพพลิเคชั่น Mobile Banking ที่เพิ่มมากขึ้น ความจำเป็นในการไปธนาคารน้อยลง เราอยู่ในยุคที่ใช้แอพพลิเคชั่นธนาคารแทนกระเป๋าสตางค์ (e-Wallet) ซึ่งกระเป๋าสตางค์ยุคต่อไปจะสามารถเก็บเงินได้มากกว่าสกุลท้องถิ่น (Fiat Currency) อาจรวมไปถึงสกุลเงินดิจิตัล หรือคริปโตเคอเรนซี่ด้วยก็เป็นได้

“เรามองว่า คริปโตเคอเรนซี่และสกุลเงินดิจิตัลเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น จึงเร่งพัฒนาแอพพลิเคชั่นด้านคริปโตเคอเรนซี่ เพื่อให้การใช้งานคริปโตเคอเรนซี่ เป็นเรื่องที่ง่ายและสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยจะพัฒนา Satang App และ Satang Shop ภายในปี2019นี้”

               ทั้งนี้ Satang App  จะเป็นเหมือนกระเป๋าสตางค์คริปโตเคอเรนซี่ ที่เจ้าของสินทรัพย์ดิจิตัลสามารถใช้เป็นที่เก็บเงินได้ไม่ต่างจากแอพพลิเคชั่นของธนาคาร แต่สามารถเก็บคริปโตเคอเรนซี่เพิ่มได้ด้วย รองรับทั้งพร้อมเพย์ เพราะได้ออกแบบ QR Code สำหรับการชำระเงินตามมาตรฐานของพร้อมเพย์ (PromtPay Standard) และการจ่ายผ่านสินทรัพย์ดิจิตัล(Cryptocurrency Payment)

ขณะเดียวกัน Satang Shop ก็จะเป็นระบบจ่ายเงินที่รองรับคริปโตสำหรับร้านค้า ที่จะถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือชำระเงินให้แก่ร้านค้า โดยร้านค้าสามารถสร้าง QR Code ผ่าน Satang Shop เพื่อให้ลูกค้าสแกน QR Code สำหรับการชำระเงิน

               “จะเห็นว่า การใช้งานของคริปโตเคอเรนซี่ เริ่มคืบคลานเข้ามาในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่จำกัดอยู่ที่การเทรด เพื่อทำกำไรบนกระดานเทรดสินทรัพย์ดิจิตัลอีกต่อไป และไม่เกิน 3 ปีจากนี้ เราจะเห็นการเติบโตของสินทรัพย์ดิจิตัล(Digital Asset) หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยมากขึ้น จะทำให้เกิดการปรับตัวทั้งจากผู้ใช้งานและร้านค้า เพราะมองว่า Digital Asset ก็เป็นหนึ่งใน รูปแบบของ Digital Payment ที่กำลังเติบโตเช่นกัน”

สตางค์ ผุด Satang App ปีนี้ เก็บคริปโตเคอเรนซี่