SKE เตรียมผลิตก๊าซ CBG ส่งขายให้ปตท.ทั้ง100%
บมจ.สากล เอนเนอยี หรือ “SKE” หนึ่งในผู้นำธุรกิจด้านการให้บริการก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ เตรียมขายสินค้าใหม่ก๊าซ CBG ให้กลุ่ม ปตท. คาดเซ็นสัญญาเร็วๆนี้ พร้อมขยายกำลังการผลิตเจาะกลุ่มจังหวัดอีสานใต้ เพิ่มรายได้โต กว่า 15%
นายชัชชัย สุเมธโชติเมธา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สากล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ SKE กล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมผลิตก๊าซ CBG ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัท และพร้อมทำสัญญาซื้อขายระยะยาวกับ กลุ่มปตท. ทั้ง 100% ของกำลังการผลิตคือ 9 ตันต่อวัน และหากคิดเป็นปีจะสามารถผลิตก๊าซ NGV ได้ประมาณ 3,285,000 กิโลกรัมต่อปี ( 3,285 ตันต่อปี) เพื่อสร้างความมั่นคงของธุรกิจ ซึ่งการขายก๊าซ CBG กับ กลุ่มปตท. เป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากเดิมที่จะเน้นการขายปลีกให้กับลูกค้ารายย่อย เป็นการขายส่งให้กับกลุ่มปตท เนื่องจาก กลุ่มปตท เป็นทั้งพันธมิตรธุรกิจที่สำคัญและเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายพลังงาน อันดับหนึ่งของประเทศ ที่มีความมั่นคงทางธุรกิจสูงสุด ทำให้บริษัทฯมีโอกาสที่จะเพิ่มรายได้อย่างชัดเจน และสำหรับกลุ่มปตท. การซื้อก๊าซ CBG จาก SKE จะสามารถช่วยกลุ่ม ปตท. ลดต้นทุนในการขนส่ง และเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรในธุรกิจ NGV จึงทำให้การธุรกิจร่วมกันเป็น WIN -WIN สำหรับทั้ง 2 บริษัท
ในอนาคตอันใกล้ บริษัทฯเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตก๊าซ CBG เพื่อเจาะกลุ่มสถานีบริการก๊าซ NGV ในเขตภาคอีสานใต้ อาทิ บุรีรัมย์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด เป็นต้น ทางบริษัทฯได้เปิดให้บริการ CBG ล่าช้า เนื่องจากระบบก๊าซ CBG ที่ทางบริษัทฯทำออกมาได้มีคุณภาพที่ดี อยู่ที่ 92 -94% ซึ่งดีกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ประมาณ 85% ทำให้ทางบริษัทฯต้องมีการปรับปรุงก๊าซและตรวจสอบให้เป็นไปตามกฎหมายกำหนด ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถเปิดใช้บริการภายในเดือนธันวาคมนี้แน่นอน และจะเริ่มทำการขายก๊าซ CBG เต็มรูปแบบเดือนมกราคม 2562
การลงทุนในครั้งนี้บริษัทฯได้รับการอนุมัติเงินทุนสนับสนุนจากโครงการส่งเสริมการผลิตไบโอมีเทนอัด (CBG) ในสถานประกอบการที่มีระบบก๊าซชีวภาพจากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เป็นเงินจำนวน 12 ล้านบาทอีกด้วย ภายในต้นปี 2562 และ ยังได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ในเรื่องสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรก ปี 2561 สิ้นสุด 30 กันยายน 2561 บริษัทฯมีรายได้รวม 255.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 มีรายได้ 247.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในงวดนี้ 45.16 ล้านบาท ลดลงจากที่มีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560