หนุนออกพันธบัตรสีเขียว ก.ล.ต.แก้เกณฑ์รับสากล ดันระดมทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม

22 พ.ย. 2561 | 10:37 น.
อัปเดตล่าสุด :22 พ.ย. 2561 | 17:37 น.
ก.ล.ต.ปรับปรุงเกณฑ์ เปิดเผยข้อมูลขาย Green Bond หวังส่งเสริมการลงทุนและระดมทุนในกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ยกระดับเทียบสากล ด้านกบข.ลั่น ตั้งเป้าเป็นผู้นำส่งเสริมลงทุน ESG หลังนำร่องตั้งพอร์ตลงทุน 1 พันล้านบาท

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลรองรับการออกและเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม(Green Bond) สำหรับผู้ที่ต้องการออกและเสนอขายหุ้นกู้ดังกล่าวให้มีข้อปฏิบัติตามมาตรฐานสากล โดยกำหนดให้เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมในแบบแสดงรายการเสนอขายตราสารหนี้ เช่น วัตถุประสงค์การใช้เงินที่ได้จากการระดมทุน กระบวนการที่ใช้ในการคัดเลือกการลงทุน การบริหารเงินที่ได้จากการระดมทุน และการรายงานและช่องทางการเปิดเผยข้อมูล รวมทั้งสนับสนุนให้มีผู้เชี่ยวชาญภายนอกเข้ามาช่วยประเมินด้วย
“การปรับเกณฑ์ครั้งนี้ เพราะต้องการส่งเสริมการลงทุนและระดมทุนในกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมคือ ลดและแก้ไขปัญหามลพิษ ส่งเสริมอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ลดและแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยเปิดรับฟังความคิดเห็นระหว่างวันที่ 15-29 พฤศจิกายน”

กรีนบอนด์หรือ พันธบัตรสีเขียว เป็นตราสารหนี้ที่มีวัตถุประสงค์ หลักในการระดมทุนเพื่อโครงการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานสะอาด การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม การขนส่งคาร์บอนตํ่าและอาคารสีเขียว ซึ่งธนาคารทหารไทย เป็นธนาคารพาณิชย์ไทยแห่งแรกที่ออกพันธบัตรสีเขียวอายุ 7 ปี มูลค่า 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1,850 ล้านบาท โดยบรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ(ไอเอฟซี) เป็นผู้ลงทุนทั้งหมด เพื่อนำเงินไปส่งเสริมการลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการพัฒนาที่ยั่งยืน TP19-3420-A

การออกกรีนบอนด์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในระยะหลังๆ โดย ณ สิ้นปี 2560 มียอดคงค้างของการระดมทุนด้วยการออกกรีนบอนด์ทั่วโลกสูงถึง 3.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณ 11.7 ล้านล้านบาท สะท้อนถึงความต้องการของนักลงทุนยุคใหม่ที่ต้องการลงทุนในเครื่องมือทางการเงินอย่างกรีน บอนด์รวมถึงเจตนารมณ์ของภาคสังคมและการเมืองที่ต้องการสนับสนุนความรับผิดชอบต่อผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยนักลงทุนสถาบันอย่างน้อย1ใน 3ทั้งที่ลงทุนในหุ้นและหุ้นกู้ใช้เกณฑ์ลงทุน โดยวิเคราะห์ผ่านมิติทางด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล(ESG) และคาดว่าภายในปี 2563 สัดส่วนจะเพิ่มเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของนักลงทุนทั้งหมดจะหันมาใช้เกณฑ์ ESG

[caption id="attachment_350125" align="aligncenter" width="335"]  เพิ่มเพื่อน [/caption]

นายวิทัย รัตนากร เลขา ธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ(กบข.)กล่าวว่า การลงทุนอย่างมี ESG เป็นประเด็นที่กบข.ให้ความสำคัญ โดยได้จัดตั้ง ESG-Focused Portfolio มูลค่า 1,000 ล้านบาท เพื่อลงทุนในกิจการที่ผ่านเกณฑ์ประเมินด้าน ESG ของ กบข. โดยมี SETTHSI ของตลาดหลัก ทรัพย์ฯเป็นตัวชี้วัด และยังกำหนดเกณฑ์จัดกลุ่มกิจการที่กบข.สนับสนุนให้ลงทุนและกิจการที่ไม่ลงทุน สำหรับ ESG-Focused Portfolio ไว้ โดยมีเป้าหมายการเป็นผู้นำและริเริ่มการลงทุนที่ส่งเสริม ESG

หน้า 19 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3420 ระหว่างวันที่ 22 - 24 พฤศจิกายน 2561 ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว