'ไทยวา' ซื้อกิจการ TDC สัดส่วน 33% หนุนธุรกิจแป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม

03 ต.ค. 2560 | 08:17 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ไทยวา เผย บริษัทย่อยเข้าซื้อกิจการใน "สำปะหลังพัฒนา" 33.33% ช่วยหนุนสัดส่วนของรายได้และกำไรในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม เติบโตแข็งแกร่ง หวังตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจร มุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจแป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์อาหารจากแป้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย

นายโฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง และผู้นำตลาดโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นสดและวุ้นเส้นแห้งในประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัท ไทยวาไบโอพาวเวอร์ จำกัด หรือ TWBP ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญใน บริษัท สำปะหลังพัฒนา จำกัด หรือ TDC ผู้ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิต และจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังดัดแปร (Modified Starch) จาก เท้ท แอนด์ ไลล์ พีแอลซี (Tate & Lyle Plc.) จำนวน 166,668 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 33.33 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ TDC ส่งผลทำให้ TDC ซึ่งเดิมมีสถานะเป็นบริษัทร่วมกลายมาเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมของบริษัทเช่นกัน

ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อว่าธุรกิจของ TDC จะช่วยให้ธุรกิจกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม (High Value-Added) ของบริษัทฯ สามารถขยายธุรกิจได้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น อีกทั้งช่วยเพิ่มศักยภาพ ส่งเสริมการเป็นผู้นำในภูมิภาคของผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์อาหารจากแป้งให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

“เราตัดสินใจซื้อกิจการของ Tapioca Development Corporation Limited (TDC) ในสัดส่วน 33% ผ่านบริษัทย่อยเพื่อรองรับการขยายฐานกำลังการผลิต และสนับสนุนรายได้และกำไรของบริษัทฯ ในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งส่งผลทำให้ TWPC มีสัดส่วนการถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมใน TDC รวม 67%"นายโฮ เรน ฮวา กล่าว

นอกจากนี้ ยังสอดคล้องไปตามนโยบายกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นการขยายสัดส่วนของรายได้และกำไรในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม (High Value-Added) ซึ่งมีอัตราการทำกำไรสูงขึ้น และไม่ผันผวนมากเหมือนผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง ประกอบกับยังเป็นการส่งเสริมและเป็นประโยชน์กับธุรกิจหลักของบริษัทฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบันอีกด้วย ทั้งนี้ การผสมผสานของธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งด้วยผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังมูลค่าเพิ่ม จะช่วยให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าและสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจรได้ดียิ่งขึ้น และจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ เพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านธุรกิจแป้งมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์อาหารจากแป้งในประเทศไทยและภูมิภาค