Play
เทรนด์ฮิต!บล็อกเทรด จ่ายแค่10%บวกดอกเบี้ย โบรกเกอร์ซื้อหุ้นล็อตใหญ่แทน
บล.กสิกรไทยฯเผยแรงเก็งกำไรสนั่น นักลงทุนนิยมเล่นบล็อกเทรดหุ้นรายตัว ใช้เงินน้อย เล่นได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง ค่าคอมมิสชันตํ่า จ่ายดอกเบี้ยเพียง 7% ต่อปี
นายสุทธิสิทธิ์ แจ่มดี รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกิจหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า นักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงราคาหุ้นรายตัว(Single Stock Futures-SSF) โดยเฉพาะแบบจับคู่ที่มีปริมาณมากได้ตามที่ต้องการ หรือ Block Trade (บล็อกเทรด) ปัจจุบันมีหุ้นคงค้างอยู่ในระบบBlock Trade ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยเป็นหุ้นบริษัทบ้านปู(BANPU) สูงที่สุดมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ยอดคงค้างที่มีอยู่เกิดจากลูกค้ายังไม่ปิดสถานะในการลงทุน
สำหรับนักลงทุนที่นิยมใช้ SSF Block Trade มีทั้งนักลงทุนที่มีประสบการณ์ลงทุนในหุ้น และเด็กรุ่นใหม่ที่มาเล่นหุ้นเต็มตัว โดยเฉพาะที่อยู่ในกรุงเทพ และในต่างจังหวัดยกเว้นภาคใต้ เนื่องจากมีอัตราทดมากถึง 2-20 เท่า นั่นหมายถึงอำนาจซื้อเพิ่มขึ้น 2-20 เท่า ใช้เงินส่วนตัวน้อย โบรกเกอร์ออกเงินซื้อหุ้นให้ก่อน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 7% ต่อปี ขณะเดียวกันค่าธรรมเนียมในการซื้อขายก็ต่ำเพียง 0.01%เมื่อเปรียบเทียบกับค่าคอมมิชชันซื้อขายหุ้นปกติอยู่ที่ 0.25% แต่นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลให้ดี ในเรื่องการวางหลักประกัน คือต้องวางเกินเผื่อไว้ก่อน เพราะเมื่อราคาหุ้นลงมาถึงระดับหนึ่ง ต้องวางหลักประกันเพิ่ม หากลดลงต่อไป ก็จะถูกบังคับขายหุ้นได้ กรณีนำเงินมาวางเพิ่มไม่ทันหรือไม่เพียงพอ
“ ปกติกรณีลูกค้าต้องการลงทุนหุ้นบริษัทปตท. (PTT) จำนวน 1,000 หุ้น ในราคาหุ้นละประมาณ 400 บาท จะต้องใช้เงินลงทุนจำนวน 4 แสนบาท แต่หากซื้อแบบBlock Trade ตามข้อกำหนดของ TFEX ให้หุ้นปตท.ซื้อขายขั้นต่ำ 20 สัญญา ลูกค้าจะสามารถลงทุนได้ถึง 2 หมื่นหุ้น คิดเป็นมูลค่า 8 ล้านบาท เพียงวางเงิน 10% คิดเป็น 8 แสนบาทเป็นหลักประกันเท่านั้น โดยที่บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยออกเงินจำนวนมากซื้อหุ้นส่วนเกิน จำนวน 1.9 หมื่นหุ้นให้ลูกค้าก่อน บางครั้งราคาขึ้นหรือ ลงเพียง 2 ช่อง ก็ทำกำไรได้แล้ว ถือลงทุนนานแค่ไหนก็ได้ โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงได้เพราะเล่นได้ทั้งราคาขาขึ้นและขาลง “ นายสุทธิสิทธิ์กล่าว
ทั้งนี้ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) กำหนดจำนวนซื้อขายขั้นต่ำ 20 หรือ 100 สัญญา เช่น บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV กำหนดที่ 100 สัญญา มีผลบังคับใช้วันที่ 16 มกราคม 2560
นายสุทธิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยได้เงินมาประมาณ 1,000 ล้านบาทในการให้บริการ SSF Block Trade แต่ใช้จริงประมาณ 80-90% และมีโอกาสขยายธุรกิจนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความต้องการสูงมาก แต่บริษัทฯมีระบบป้องกันความเสี่ยง เช่น การประเมินเครดิตของลูกค้า และการกำหนดเพดานสูงสุดในการลงทุนหุ้นในแต่ละตัว หากหุ้นตัวไหนได้รับความสนใจซื้อจนเต็มเพราะไม่มีใครปิดสถานะ นักลงทุนรายใหม่ก็ไม่สามารถซื้อหุ้นตัวนั้นได้อีก
นอกจากนั้นนักลงทุนยังสนใจลงทุนผ่านสินค้าอนุพันธ์มากขึ้น โดยปี 2559 เติบโตถึง 43% หรือซื้อขายมากกว่า 3 แสนสัญญา โดยเฉพาะออปชั่น หลังจาก TFEX ว่าจ้างบริษัทหลักทรัพย์จำนวน 6 แห่งในการดูแลสภาพคล่อง (มาร์เก็ตเมคเกอร์) มีการเสนอซื้อและเสนอขาย รวมถึงภาวะตลาดไซเวย์ เอื้ออำนวยต่อการใช้เครื่องมืออนุพันธ์ในการลงทุนและบริหารความเสี่ยง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,260 วันที่ 11 - 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560
นายสุทธิสิทธิ์ แจ่มดี รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกิจหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่า นักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงราคาหุ้นรายตัว(Single Stock Futures-SSF) โดยเฉพาะแบบจับคู่ที่มีปริมาณมากได้ตามที่ต้องการ หรือ Block Trade (บล็อกเทรด) ปัจจุบันมีหุ้นคงค้างอยู่ในระบบBlock Trade ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยเป็นหุ้นบริษัทบ้านปู(BANPU) สูงที่สุดมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ยอดคงค้างที่มีอยู่เกิดจากลูกค้ายังไม่ปิดสถานะในการลงทุน
สำหรับนักลงทุนที่นิยมใช้ SSF Block Trade มีทั้งนักลงทุนที่มีประสบการณ์ลงทุนในหุ้น และเด็กรุ่นใหม่ที่มาเล่นหุ้นเต็มตัว โดยเฉพาะที่อยู่ในกรุงเทพ และในต่างจังหวัดยกเว้นภาคใต้ เนื่องจากมีอัตราทดมากถึง 2-20 เท่า นั่นหมายถึงอำนาจซื้อเพิ่มขึ้น 2-20 เท่า ใช้เงินส่วนตัวน้อย โบรกเกอร์ออกเงินซื้อหุ้นให้ก่อน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 7% ต่อปี ขณะเดียวกันค่าธรรมเนียมในการซื้อขายก็ต่ำเพียง 0.01%เมื่อเปรียบเทียบกับค่าคอมมิชชันซื้อขายหุ้นปกติอยู่ที่ 0.25% แต่นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลให้ดี ในเรื่องการวางหลักประกัน คือต้องวางเกินเผื่อไว้ก่อน เพราะเมื่อราคาหุ้นลงมาถึงระดับหนึ่ง ต้องวางหลักประกันเพิ่ม หากลดลงต่อไป ก็จะถูกบังคับขายหุ้นได้ กรณีนำเงินมาวางเพิ่มไม่ทันหรือไม่เพียงพอ
“ ปกติกรณีลูกค้าต้องการลงทุนหุ้นบริษัทปตท. (PTT) จำนวน 1,000 หุ้น ในราคาหุ้นละประมาณ 400 บาท จะต้องใช้เงินลงทุนจำนวน 4 แสนบาท แต่หากซื้อแบบBlock Trade ตามข้อกำหนดของ TFEX ให้หุ้นปตท.ซื้อขายขั้นต่ำ 20 สัญญา ลูกค้าจะสามารถลงทุนได้ถึง 2 หมื่นหุ้น คิดเป็นมูลค่า 8 ล้านบาท เพียงวางเงิน 10% คิดเป็น 8 แสนบาทเป็นหลักประกันเท่านั้น โดยที่บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยออกเงินจำนวนมากซื้อหุ้นส่วนเกิน จำนวน 1.9 หมื่นหุ้นให้ลูกค้าก่อน บางครั้งราคาขึ้นหรือ ลงเพียง 2 ช่อง ก็ทำกำไรได้แล้ว ถือลงทุนนานแค่ไหนก็ได้ โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงได้เพราะเล่นได้ทั้งราคาขาขึ้นและขาลง “ นายสุทธิสิทธิ์กล่าว
ทั้งนี้ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) กำหนดจำนวนซื้อขายขั้นต่ำ 20 หรือ 100 สัญญา เช่น บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV กำหนดที่ 100 สัญญา มีผลบังคับใช้วันที่ 16 มกราคม 2560
นายสุทธิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยได้เงินมาประมาณ 1,000 ล้านบาทในการให้บริการ SSF Block Trade แต่ใช้จริงประมาณ 80-90% และมีโอกาสขยายธุรกิจนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีความต้องการสูงมาก แต่บริษัทฯมีระบบป้องกันความเสี่ยง เช่น การประเมินเครดิตของลูกค้า และการกำหนดเพดานสูงสุดในการลงทุนหุ้นในแต่ละตัว หากหุ้นตัวไหนได้รับความสนใจซื้อจนเต็มเพราะไม่มีใครปิดสถานะ นักลงทุนรายใหม่ก็ไม่สามารถซื้อหุ้นตัวนั้นได้อีก
นอกจากนั้นนักลงทุนยังสนใจลงทุนผ่านสินค้าอนุพันธ์มากขึ้น โดยปี 2559 เติบโตถึง 43% หรือซื้อขายมากกว่า 3 แสนสัญญา โดยเฉพาะออปชั่น หลังจาก TFEX ว่าจ้างบริษัทหลักทรัพย์จำนวน 6 แห่งในการดูแลสภาพคล่อง (มาร์เก็ตเมคเกอร์) มีการเสนอซื้อและเสนอขาย รวมถึงภาวะตลาดไซเวย์ เอื้ออำนวยต่อการใช้เครื่องมืออนุพันธ์ในการลงทุนและบริหารความเสี่ยง
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,260 วันที่ 11 - 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560