KEY
POINTS
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ประเมินตลาดยานยนต์ไฟฟ้าอินเดียยังอยู่ในช่วงขาขึ้น โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสองล้อและสามล้อที่ได้รับความนิยมสูง สอดรับนโยบายรัฐบาลอินเดียตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นร้อยละ 30 ภายในปี 2030 ชี้เป็นโอกาสสำคัญของผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยในการรุกตลาดรถไฟฟ้า ชิ้นส่วนแบตเตอรี่ ชุดประกอบ และโซลูชันชาร์จ ในตลาดขนาดใหญ่ของเอเชียใต้
นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ในต่างประเทศเร่งสำรวจลู่ทางการค้าและโอกาสการส่งออกสินค้าไทยในตลาดศักยภาพ ล่าสุดได้รับรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ถึงแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอินเดียที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จากการผลักดันเชิงนโยบายของรัฐบาลและการปรับตัวของผู้บริโภค
รายงานระบุว่า แรงขับเคลื่อนสำคัญของตลาด EV อินเดียอยู่ที่รถไฟฟ้าสองล้อและสามล้อ ซึ่งเป็นยานพาหนะหลักสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวันและการขนส่งเชิงพาณิชย์ ระบบนิเวศของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ากำลังขยายตัวอย่างชัดเจน ทั้งด้านการผลิต การลงทุน และโครงสร้างพื้นฐาน โดยรัฐสำคัญ เช่น มหาราษฏระ คุชราต และทมิฬนาฑู ออกมาตรการจูงใจด้านภาษี เงินอุดหนุน และการสนับสนุนเชิงการผลิต เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของอินเดียประกาศแผนขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จทั้งในเขตเมืองและบนทางหลวง เพื่อรองรับการใช้งาน EV ที่เพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลอินเดียตั้งเป้าหมายเชิงนโยบายให้ยานยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วนร้อยละ 30 ของยอดจำหน่ายยานยนต์ทั้งประเทศ ภายใต้การสนับสนุนจากมาตรการระดับชาติและระดับรัฐ รวมถึงการดึงดูดการลงทุนจากภาคเอกชน
ข้อมูลภาครัฐอินเดียระบุว่า ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีการจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าสะสมประมาณ 5.675 ล้านคัน คิดเป็นร้อยละ 1.44 ของยานพาหนะที่จดทะเบียนทั้งหมดกว่า 389.77 ล้านคัน โดยตลาดรถไฟฟ้าสองล้อเติบโตโดดเด่นที่สุด ด้วยอัตราขยายตัวสูงถึงร้อยละ 57 ส่วนโครงข่ายสถานีชาร์จสาธารณะอยู่ระหว่างการขยายตัว มีจำนวนประมาณ 29,277 สถานี
นางสาวสุนันทากล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงเดือนมกราคม–กันยายน 2568 อินเดียมีการนำเข้ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มูลค่ารวม 1.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.93 โดยจีนเป็นแหล่งนำเข้าหลัก คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 78.94 ของมูลค่านำเข้าทั้งหมด รองลงมาคือ เยอรมนี สหราชอาณาจักร สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และไต้หวัน ขณะที่ไทยอยู่ในอันดับที่ 14 มีมูลค่าการนำเข้าประมาณ 31,811 ดอลลาร์สหรัฐ และมีส่วนแบ่งตลาดต่ำกว่าร้อยละ 2
แม้ส่วนแบ่งตลาดของไทยในปัจจุบันยังไม่สูง แต่ DITP มองว่ายังมีโอกาสขยายการส่งออกรถไฟฟ้าสองล้อและสามล้อ ชิ้นส่วนแบตเตอรี่ ชุดประกอบ และโซลูชันชาร์จ รวมถึงการสร้างความร่วมมือเชิงพันธมิตรกับผู้ผลิตหรือผู้ให้บริการฟลีตในอินเดีย เพื่อปรับโมเดลราคา ลดต้นทุนจากการผลิตตามปริมาณ และเสริมบริการหลังการขาย แม้อินเดียจะเดินหน้าส่งเสริมการผลิตในประเทศเพื่อลดการนำเข้า แต่ในระยะนี้ยังเปิดช่องให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปทำตลาดได้
ทั้งนี้ ผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ผ่านเว็บไซต์ www.ditp.go.th หรือสายด่วน 1169 และติดตามโอกาสการค้าระหว่างประเทศผ่านแพลตฟอร์ม thaitrade.com