ไทย ประกาศ 'ค่าไฟฟ้า' ปล่อยก๊าซเรือนกระจกชุดใหม่ มีผล 1 ม.ค. 69
อัปเดตด่วน ไทยประกาศค่าไฟฟ้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกชุดใหม่ มีผล 1 ม.ค. 69 ผู้ประกอบการต้องรู้! เข้มกว่าเดิม องค์กรต้องปรับตัว
KEY
POINTS
- องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ประกาศค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ไฟฟ้า (Emission Factor) ชุดใหม่ สำหรับใช้ประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร
- ค่า Emission Factor ใหม่นี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2569 เป็นต้นไป
- ค่าใหม่ครอบคลุมการปล่อยก๊าซฯ ตลอดกระบวนการผลิตไฟฟ้า โดยแบ่งเป็น SCOPE 2 ที่ 0.4750 kgCO2e/kWh และ SCOPE 3 ที่ 0.0812 kgCO2e/kWh
คณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก มีมติเห็นชอบการประกาศค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของการใช้ไฟฟ้า (Emission Factor) จากระบบสายส่งของประเทศไทยสำหรับการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร โดยค่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ประกาศนี้พิจารณาครอบคลุมการได้มาซึ่งเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า (Extraction and Refining) การขนส่งเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า (Transportation) การเผาไหม้เชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตกระแสไฟฟ้า (Fuel Combustion) และการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าในระหว่างการขนส่งและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า ตั้งแต่โรงไฟฟ้าจนถึงผู้ใช้ไฟฟ้า (Transmission and Distribution Loss: T&D Loss)
อ้างอิงจากข้อมูลของกระทรวงพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) ครอบคลุมทั้งไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิลและพลังงานหมุนเวียน โดยในการคำนวณอ้างอิงค่าศักยภาพในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน (Global Warming Potential: GWP) จาก 5th IPCC Assessment Report (AR5) แสดงผลดังนี้
การเผาไหม้เชื้อเพลิงรวมถึงการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าในระหว่างการขนส่งและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าสำหรับ SCOPE 2 มีค่าเท่ากับ 0.4750 kgCO2e/kWh
- การได้มาซึ่งเชื้อเพลิงรวมถึงการขนส่งเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าสำหรับ SCOPE 3 มีค่าเท่ากับ 0.0812 kgCO2e/kWh
การประกาศค่า Emission Factor CFO ครั้งนี้ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2569 (ตามมติคณะกรรมการ อบก. 25 พฤศจิกายน 2568) ทั้งนี้ ผู้คำนวณและรายงานคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร ยังสามารถใช้ค่า Emission Factor เดิมได้ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2569