สงขลาอ่วม! น้ำท่วมหาดใหญ่คาดเสียหาย 500 ล้าน ปชช. รับผลกระทบ 6 แสนคน

24 พ.ย. 2568 | 05:54 น.
อัปเดตล่าสุด :24 พ.ย. 2568 | 06:18 น.

'ทรงพล' ปธ.หอการค้าจ.สงขลา เผย ฝนตกหนักน้ำท่วมพื้นที่เศรษฐกิจหาดใหญ่ เบื้องต้นคาดสร้างความเสียหาย 500 ล้าน กระทบประชาชนกว่า 6 แสนคน

KEY

POINTS

  • น้ำท่วมเขตเศรษฐกิจหาดใหญ่ คาดการณ์ความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 500 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการยกเลิกการจองที่พักและร้านอาหาร
  • ประชาชนใน 16 อำเภอของจังหวัดสงขลาได้รับผลกระทบกว่า 635,000 คน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และต้องอพยพกว่า 1,200 คน
  • ภาครัฐระดมกำลังเข้าช่วยเหลือเต็มที่ ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวและแจกจ่ายถุงยังชีพ ขณะที่สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วงเนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่จังหวัดสงขลาว่า ขณะนี้มวลน้ำเริ่มเข้าสู่เขตเศรษฐกิจ สงขลา โดยเฉพาะน้ำที่มาจากคลองเตย เริ่มไหลเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจหาดใหญ่ สงขลาแล้ว

สำหรับความเสียหายเบื้องต้น ทางหอการค้าจังหวัดสงขลา ประเมินว่าอาจจะได้รับความเสียหายต่อเศรษฐกิจประมาณ 500 ล้านบาท เนื่องจากเป็นการยกเลิกที่พักโรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยว เพราะฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน และอาจมีน้ำท่วมขังประมาณ 1-2 สัปดาห์ 

ด้านกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา รายงานสถานการณ์สาธารณภัย ระหว่างวันที่ 20–23 พฤศจิกายน 2568 พบว่า ขณะนี้ ทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดสงขลาได้รับผลกระทบแล้ว รวม 115 ตำบล 821 หมู่บ้าน 167 ชุมชน มีประชาชนได้รับผลกระทบจำนวน 243,568 ครัวเรือน รวม 635,423 คน ต้องอพยพรวม 1,224 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย 

ทั้งนี้ จังหวัดสงขลาได้เร่งนำกำลังทุกภาคส่วนลงช่วยเหลือประชาชนแบบเต็มกำลัง มีการตั้ง โรงครัวพระราชทาน 2 แห่ง ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ สนับสนุนเครื่องสูบน้ำรวม 86 เครื่อง เรือท้องแบน 44 ลำ เรือยาง 21 ลำ และรถยกสูง 83 คัน เพื่อใช้ในการอพยพและขนย้ายประชาชนจากพื้นที่น้ำท่วมหนัก 

โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ นอกจากนี้ หน่วยงานภาครัฐ ทหาร ปภ. อปท. มูลนิธิฯ และเครือข่ายจิตอาสา ได้ร่วมกันแจกจ่ายข้าวกล่อง น้ำดื่ม และถุงยังชีพอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านจราจร การขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และสนับสนุนกระสอบทรายให้แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังติดตามปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะคลองอู่ตะเภา ซึ่งเป็นคลองสายหลักของเมืองหาดใหญ่ ที่ระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายพื้นที่ในอำเภอหาดใหญ่และพื้นที่รอบข้างมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งระดมกำลัง เครื่องจักร และยุทโธปกรณ์ลงพื้นที่ทันทีเพื่อช่วยเหลือประชาชน

นอกจากนี้ จังหวัดได้จัดตั้งมณฑลทหารบกที่ 42 เป็นศูนย์บัญชาการหลัก เนื่องจากมีความพร้อมทั้งกำลังพลและยุทโธปกรณ์

โดยย้ำให้ทุกหน่วยงานประสานการทำงานอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งอพยพประชาชนจากจุดเสี่ยง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวของทางราชการจัดเตรียมไว้ ได้แก่ ศูนย์ประชุมนานาชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และทัพเรือภาคที่ 2