“มงคล สุขเจริญคณา” นำทัพบุกกรมประมง กดดันคลอดกฎหมายรอง กันโทษ 30 ล้าน คืนชีพ

14 พ.ย. 2568 | 07:51 น.
อัปเดตล่าสุด :14 พ.ย. 2568 | 12:11 น.

ภาคประมงสะเทือน “มงคล สุขเจริญคณา” ยกระดับเคลื่อนไหวใหญ่สัปดาห์หน้า เตรียมนำทัพบุกกรมประมง กดดันคลอดกฎหมายรอง กันโทษ 30 ล้าน คืนชีพ

นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย  เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”  ว่า นับตั้งแต่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มาพบปะกับชาวประมง เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2568 รับปากที่จะให้กรมประมงเร่งรัดออกกฎหมายลำดับรอง เนื่องจากกฎกระทรวงหรือประกาศที่ออกตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558  ที่ใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติฉบับปัจจุบันที่ขัดหรือแย้งกับพระราชบัญญัตินี้ เพื่อแก้ไขปรับปรุง หรือยกร่างใหม่ให้เป็นการเร่งด่วน

“มงคล สุขเจริญคณา” นำทัพบุกกรมประมง กดดันคลอดกฎหมายรอง กันโทษ 30 ล้าน คืนชีพ

“ยกตัวอย่าง มีคดีประมงที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ทางตำรวจ ,คณะกรรมการเปรียบเทียบระดับจังหวัด และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ยังไม่ทราบว่า พ.ร.บ.ประมง ฉบับใหม่บังคับใช้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น โทษปรับ จากสูงสุด 30 ล้านบาท  เหลือหลักแสนบาท  แต่เมื่อไม่ทราบ ทางเจ้าหน้าที่  อัยการ ยังบอกว่าที่ตัดสินไปแล้ว ศาลจะระงับไม่ได้  ซึ่งต่างจากคดีกัญชา ติดคุกอยู่ แล้วพอกฎหมายออกมาใหม่ ศาลมีคำสั่งปล่อยในระหว่างที่ยังติดคุกไม่ครบ ทำไมคนละมาตรฐาน ช่างเป็นเวรกรรมพี่น้องประมงไทยจริงๆ”

นายมงคล กล่าวอีกว่า ผ่านมา 1 เดือนแล้ว นับตั้งแต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ไปรับปากว่าจะเร่งรัด ให้กรมประมงกฎหมายลูก ยังไม่เกิด ทางสมาคมก็จะระดมพี่น้อง 22 จังหวัดไปรวมตัวกัน ที่กรมประมง ในสัปดาห์หน้า เพื่อถามถึงอธิบดีกรมประมง ถึงแผนงานและนโยบายในเรื่องกฎหมายรอง ให้เร็วที่สุดก่อนที่รัฐบาลจะยุบสภา ก่อนอุตสาหกรรมล้มทั้งแผง

"ที่ผ่านมา พวกเราต้องใช้ความพยายามถึง 10 ปี  ขอแก้กฎหมายประมง แต่ก็แก้ได้เฉพาะกฎหมายที่ "จ้องจับปรับ"(จับเพื่อกินค่าปรับ)ให้เบาลง ทำไมไม่ช่วยกันดูว่าชาวประมงจะอยู่ได้ไหม ถ้าทะเลไม่มีตัว ไม่มีปลาให้จับ เมื่อก่อนมีเรือพาณิชย์ 18,000 ลำ จับปลาปีละ 2.8  ล้านตัน แต่ปัจจุบันเหลือเรือ 5,000 กว่าลำ มีปลาให้จับแค่ 1.2  ล้านตัน ต้องนำเข้ากว่า 1.3 ล้านตัน"

ส่วนภาครัฐไม่ต้องอ้างนะว่าปลาโตไม่ทัน ทำไมไม่มองว่าปลามันเกิดน้อย อยู่รอดได้น้อย เพราะอะไร ทั้งที่มีมาตรการขยายตาอวน ลดจำนวนเรือ จำกัดวันทำประมง มีการปิดอ่าว และอีกสารพัดกฎที่ออกทำประมงลำบากขึ้น ถ้ามาตรการพวกนี้มันใช้ได้ ป่านนี้คงมีปลาเต็มทะเลแล้ว พวกเราต้องมาเรียกร้องแล้วว่ามาตรการที่ออกมามันผิด ยังแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ถ้าชาวประมงได้เงินกู้แล้วจะมีปัญญาใช้หนี้ไหมถ้าทะเลไม่มีตัว

1.เขตทะเลชายฝั่งจากเดิม 3,000 เมตร ขยายออกมากเกินไปไหม ไม่มีการพลิกหน้าดินชายฝั่งเลย ชายฝั่งแข็งตัว อุณหภูมิหน้าดินสูง หอยตาย สัตว์น้ำวัยอ่อนอยู่ไม่ได้ แม่พันธ์ตายทั้งกลม ปัญหานี้ไม่ต้องรอนักวิจัยมาสรุปหรอกนะเพราะเขาไม่มีโอกาสพิสูจน์ เขาไม่มีสภาพให้เปรียบเทียบว่าเมื่อก่อนเป็นอย่างไร

2.ขนาดตาอวนของอวนรุนเคย กับ ที่เคยรุน เรื่องนี้ก็เป็นอะไรที่ภาครัฐปัญญาอ่อนเกินไป    พวกเราถูกบังคับให้ใช้กฎหมายผิดๆที่ไม่ใช่แต่ทำร้ายชาวประมง ยังทำร้ายกุ้ง หอย ปู ปลา อีกด้วย

นายมงคล กล่าวสรุปปัญหาของพี่น้องชาวประมงที่รอการแก้ไขดังนี้  1.เร่งรัดออกกฎหมายลูก 2.ทบทวนสินเชื่อประมงมีความคืบหน้าหรือไม่ 4-6 เดือนแล้ว 3.เรืออุทธรณ์ มีความคืบหน้าอย่างไร 4.การบริหารจัดการแก้ไขปัญหาแรงงานกัมพูชาในอาชีพประมงจะทำอย่างไร 5.ราคาสัตว์น้ำเป็นอย่างไร 6.ต้นทุนในการประกอบอาชีพประมงในทุกๆด้านสูงขึ้นมากจะแก้ไขอย่างไร 7.การส่งออก/การนำเข้าสินค้าประมง มีปัญหาอะไรบ้าง 8.การชดเชยเยียวยาให้กับพี่น้องประมงชาวประมงที่ได้รับผลกระทบกับการแก้ไขปัญหาIUU

9.เชิญกรมประมงมอบกองกฎหมาย จัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจ พรบ ประมง แก้ไข พ.ร.ก.ฉบับเดิม กับพี่น้องชาวประมง 22 จังหวัดชายทะเล 10. ผลักดันกรมฯ  ออกระเบียบใหม่ “การช่วยเหลือ เรือประมงกรณีอัปปาง" ซึ่งจัดประชุมไปแล้ว ระเบียบ การจ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำหรือชาวประมงที่ประสบภัยธรรมชาติ พ.ศ.2541 ให้เร็วที่สุด

 

“มงคล สุขเจริญคณา” นำทัพบุกกรมประมง กดดันคลอดกฎหมายรอง กันโทษ 30 ล้าน คืนชีพ

ดร.สุเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงสงขลา กล่าวว่า วันนี้มีอะไรบ้างที่เกี่ยวกับประมงพาณิชย์ตลอดห่วงโช่อุปทานในรูปแบบเชิงรุก หรือการเพิ่มมูลค่าต่อปัจจัยการลงทุน ก็ยังไม่เห็นออกมาอย่างเป็นรูปธรรม อย่างชัดเจนตลอด 10 ปี ที่ผ่านมา   แม้กระทั่ง การเจรจา FTA ไทย-ยุโรป 0% ชาวประมงจะได้ประโยชน์ อะไรบ้าง หรือจะตกแค่ภาคส่วอุตสาหกรรม การผลิตอย่างเดียว

“เช่นเดียวระบบสินเชื่อเพื่อชาวประมงจะสามารถขยายกำลังการผลิตเพื่อความอยู่รอดหรือจะกลายเป็นการเพิ่มภาระหนี้สิน เพราะเวลาไม่ใช่ทรัพยากร เศรษฐกิจจึงหมุนรอบธนาคาร ต้นทุน และความเสี่ยง แทนที่จะหมุนรอบการผลิตและนวัตกรรม”