อุทกภัยพ่นพิษ! พื้นที่เกษตรจมน้ำกว่า 1.3 ล้านไร่ สูญกว่า 1,100 ล้านบาท

อุทกภัยต่อเนื่องตั้งแต่ปลายสิงหาคมกระทบ 53 จังหวัด พืชผลเสียหายกว่า 8 แสนไร่ ข้าวจมน้ำมากสุดกว่า 7 แสนไร่ภาครัฐเร่งเยียวยาเบื้องต้นแล้วกว่า 800 ราย วงเงิน 3.45 ล้านบาท ขณะด้านประมงและปศุสัตว์ยังคงเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือต่อเนื่อง

ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงานสถานการณ์อุทกภัยตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2568 จนถึงปัจจุบัน (6 พ.ย. 2568) พบว่า อุทกภัยได้สร้างความเสียหายอย่างกว้างขวางในภาคการเกษตร ครอบคลุม 53 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เพาะปลูกซึ่งได้รับผลกระทบรวมกว่า 1,338,000 ไร่ เกษตรกรได้รับผลกระทบกว่า 190,871 ราย

ในจำนวนนี้ ในส่วนของ ด้านพืช ความเสียหายที่สำรวจพบแล้วอยู่ที่ 817,250 ไร่ แยกเป็น ข้าว 744,253 ไร่, พืชไร่และพืชผัก 70,055 ไร่, และ ไม้ผลไม้ยืนต้น 2,942 ไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหายรวมกว่า 1,147.92 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้ให้ความช่วยเหลือแล้วแก่เกษตรกร 817 ราย ครอบคลุมพื้นที่ 2,002 ไร่ วงเงินช่วยเหลือ 3.45 ล้านบาท

ด้านประมง พบว่าได้รับผลกระทบใน 36 จังหวัด เกษตรกรได้รับผลกระทบรวม 6,347 ราย พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบกว่า 9,751 ไร่ และกระชัง 7,168 ตารางเมตร ความเสียหายที่สำรวจได้เบื้องต้นจำนวน 2,041 ไร่ คิดเป็นมูลค่า 10.47 ล้านบาท โดยรัฐบาลได้ช่วยเหลือแล้ว 229 ราย วงเงินรวม 940,672 บาท

ส่วนด้านปศุสัตว์ ได้รับผลกระทบใน 32 จังหวัด เกษตรกรกว่า 32,616 ราย สัตว์เลี้ยงได้รับผลกระทบรวมกว่า 8.46 ล้านตัว รวมถึงโค กระบือ สุกร แพะ แกะ และสัตว์ปีก โดยพบสัตว์ตายและสูญหายรวมกว่า 391,091 ตัว คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 542,800 บาท ขณะที่ภาครัฐได้ให้ความช่วยเหลือแล้ว 10 ราย วงเงิน 524,800 บาท

ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ ยังได้ระดมหน่วยงานในสังกัดเข้าช่วยเหลือเฉพาะหน้า โดย กรมชลประทาน สนับสนุนเครื่องสูบน้ำกว่า 1,261 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ 371 เครื่อง กรมส่งเสริมการเกษตร แจกจ่ายต้นพันธุ์และเมล็ดพันธุ์พืชกว่า 26,500 ชุด พร้อมเชื้อราไตรโคเดอร์มาใช้ฟื้นฟูพื้นที่กว่า 15,540 ไร่

ด้านกรมปศุสัตว์ อพยพสัตว์แล้วกว่า 331,903 ตัว พร้อมแจกหญ้าอาหารสัตว์พระราชทานกว่า 524,580 กิโลกรัมและ กรมประมง จัดชุดเฉพาะกิจ 17 ชุด ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนและขนส่งเสบียงในเขตประสบภัย

ทั้งนี้ ศูนย์ฯ ยังคงติดตามสถานการณ์พายุ “คัลแมกี” ที่คาดว่าจะส่งผลให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 7–9 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งอาจทำให้พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีความเสี่ยงต่ออุทกภัยเพิ่มเติม