KEY
POINTS
ราคาทองคำ Spot (ตลาดโลก) ล่าสุด ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2568 ปรับขึ้นแตะ 4,228 ดอลลาร์/ออนซ์ เป็นจุดสูงสุดใหม่ ขณะที่ราคาทองคำในประเทศ (96.5%)
ทั้งนี้มีหลายปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่
ขณะที่ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองในประเทศไทยปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่
สอดคล้องกับที่ “ฐานเศรษฐกิจ” ได้ตรวจสอบสถานการณ์การนำเข้าทองคำของไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 (ม.ค.-ส.ค.) พบว่ามีการนำเข้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการนำเข้ามูลค่า 434,085.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.32% (ช่วงเดียวกันปีที่แล้วมีการนำเข้า 335,674 ล้านบาท) มีปริมาณการนำเข้า 200,339 กิโลกรัม (หรือกว่า 200 ตัน) จากช่วงเดียวกันของปี 2567 มีการนำเข้า 126,945 กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้น 57.81%
สำหรับแหล่งนำเข้าทองคำ 5 อันดับแรกของไทย ได้แก่
(ปี 2567 ไทยมีการนำเข้าทองคำ 543,776.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +96.46% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปริมาณการนำเข้า 199,472 กิโลกรัม เพิ่มขึ้นจากปี 2566 55.57%)
ด้านการส่งออกทองคำยังไม่ขึ้นรูปของไทยช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 มีมูลค่า 289,681.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +73.30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ที่มีมูลค่าส่งออก 167,152 ล้านบาท) โดยมีปริมาณการส่งออก 88,409 กิโลกรัม จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีการส่งออก 65,155 กิโลกรัม หรือขยายตัวเพิ่มขึ้น 35.69%
ตลาดส่งออก 5 อันดับแรก ได้แก่
(ปี 2567 ไทยส่งออกทองคำยังไม่ขึ้นรูป 304,124.19 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 47.28% โดยมีปริมาณการส่งออก 114,057 กิโลกรัม จากช่วงเดียวกันของปี 2566 มีปริมาณส่งออก 97,077 กิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้น 17.49%)
อย่างไรก็ดี นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ออกมาระบุว่า ราคาทองคำยังร้อนแรงไม่หยุด โดยทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่รายวัน ล่าสุด (15 ต.ค. 68) ทางสมาคมฯ ได้ประกาศปรับเป้าหมายราคาทองคำสิ้นปี 2568 ขึ้นเป็น 4,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือเทียบเท่าราคาทองไทยที่ 68,000–69,000 บาท ชี้ให้เห็นถึงราคาทองที่แนวโน้มยังเป็นขาขึ้นชัดเจน จากปัจจัยหนุนเรื่องเฟดลดดอกเบี้ยและความไม่แน่นอนในสหรัฐ ทั้งนี้ยืนยันว่ายังไม่ใช่ภาวะฟองสบู่ แต่เป็นการขึ้นจากกระแสที่แรงมาก