“ธรรมนัส”คัมแบ็กประกาศสงคราม “ปลาหมอคางดำ” พร้อมเดินหน้าปลดล็อกกฎหมาย IUU

13 ต.ค. 2568 | 10:47 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ต.ค. 2568 | 10:56 น.

“ธรรมนัส”คัมแบ็กประกาศสงคราม “ปลาหมอคางดำ” สั่งฟันไม่เลี้ยงขบวนการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อน พร้อมเดินหน้าปลดล็อกกฎหมาย IUU ช่วยชาวประมงทั่วประเทศ

KEY

POINTS

  • ร้อยเอกธรรมนัส ประกาศเดินหน้าปราบปราม "ปลาหมอคางดำ" อย่างจริงจังอีกครั้ง โดยจะนำมาแปรรูปเป็นปุ๋ยเพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกร
  • ยืนยันผลักดันการแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดของ IUU Fishing ต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือชาวประมง
  • เร่งรัดโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ พร้อมปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายอย่างเข้มข้น

รายงานข่าว (13 ต.ค. 2568) ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ และ นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ

พร้อมทั้งติดตามโครงการนำเรือประมงออกนอกระบบและรับฟังปัญหาจากเกษตรกรและชาวประมงในพื้นที่ โดยมีนายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ สส.ราชบุรี พรรคกล้าธรรม และ น.ส.ณมาณิตา กลับบ้านเกาะ ให้การต้อนรับ

ร้อยธรรมนัส กล่าวกับประชาชนช่วงหนึ่งว่า โครงการนำเรือประมงออกนอกระบบ เป็นเรื่องที่ต้องเร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวประมง ซึ่งตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว และก็เป็นรัฐมนตรีจากพรรคกล้าธรรมในขณะนั้นที่ของบประมาณกลางจากรัฐบาลประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อนำมาช่วยชาวประมงให้สามารถออกนอกระบบได้อย่างเป็นรูปธรรม สําหรับพี่น้องชาวประมงที่ยังมีปัญหาติดข้อระเบียบ ตนกําลังจะแก้ปัญหาให้

“ธรรมนัส”คัมแบ็กประกาศสงคราม “ปลาหมอคางดำ” พร้อมเดินหน้าปลดล็อกกฎหมาย IUU

ส่วนการแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ที่ผ่านมาคนที่จุดประเด็นเรื่องนี้ก็คือตนเอง เนื่องจากปลาหมอคางดำขยายพันธุ์ได้เร็ว และตายยาก สร้างความเดือดร้อนให้ชาวประมง ดังนั้นจึงได้หามาตรการจัดการอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้จะจัดการได้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่จะไม่ยอมแพ้ ต้องปราบให้ได้ ต้องทำให้ต่อเนื่อง ไม่ว่าจะใช้เวลากี่วันกี่ปี

จากนี้จะนำปลาหมอคางดำมาหมักเป็นปุ๋ย เพราะให้ธาตุอาหารแก่พืช ทั้งไนโตรเจน แคลเซียม และโพแทสเซียม ช่วยให้ต้นไม้เติบโตดีขึ้น โดยพรุ่งนี้ตนจะมีการประชุมประธานสหกรณ์ทั่วประเทศไทยที่เมืองทองธานี เพื่อวางแนวทางลดต้นทุนการผลิต ทั้งพืชไร่ พืชสวน และสหกรณ์จะต้องเป็นแหล่งจําหน่าย ปัจจัยการผลิต และจัดหาช่องทางจำหน่าย รวมถึงส่งเสริมการเป็นตลาดและสถาบันรองรับสินค้าการเกษตรที่ผลิตจากชุมชน เช่น ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปลาหมอคางดำ

“ในช่วงที่ผมหายไปหนึ่งปีการปราบปรามอาจจะไม่เข้มข้น อย่างที่ผมเคยทํา แต่วันนี้ผมกลับมาประกาศสงครามกับปลาหมอคางดำอย่างเอาจริงเอาจังอีกรอบหนึ่ง”ร้อยเอกธรรมนัส กล่าว

นอกจากนี้จะมีการการปราบปรามสินค้าภาคการเกษตรผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้ามาในประเทศอย่างเข้มข้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในนโยบายหลัก หากมีการลักลอบเข้ามา จะจับกุมทันที โดยมีเรือลาดตระเวนตลอดเวลา ดังนั้น อะไรที่มันผิดกฎหมาย ขออย่าทํา อย่าลักลอบเข้ามา เพราะเป็นการเอาเปรียบเกษตรกร

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวอีกว่า  จังหวัดสมุทรสงครามมีผลไม้เศรษฐกิจสำคัญอย่าง ลิ้นจี่ ส้มโอ และมะพร้าวอ่อน ซึ่งต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยจะตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนสินค้าการเกษตรจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อผลักดันการวิจัย ปรับปรุงคุณภาพ และขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดยุโรปที่ให้ความสนใจสินค้าไทย เช่น ลิ้นจี่ ส้มโอ และเครื่องปรุงอาหารจากไทย ตนในฐานะที่กำกับดูแลหลายกระทรวง จะประสานกับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งเปิดตลาดใหม่ให้เกษตรกร โดยเราต้องช่วยกันทำ ไม่ใช่แค่พูด แต่ต้องเห็นผลในปีนี้

“ขอยืนยันกับพี่น้องชาวสมุทรสงครามว่า สิ่งที่ผมเคยให้นโยบายไว้จะเดินหน้าต่อให้ถึงที่สุด ตลอดช่วงที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้ผลักดันการแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับข้อกำหนดของ ไอยูยู (IUU Fishing) ซึ่งสร้างผลกระทบต่อชาวประมงไทย และดำเนินการแก้กฎหมายไปแล้ว 29 ฉบับ และตอนนี้ พ.ร.บ.หลัก ก็ผ่านกระบวนการพิจารณาเรียบร้อยแล้ว และระหว่างรอประกาศใช้กฎหมายฉบับใหม่ ผมได้มอบหมายให้เร่งจัดทำกฎหมายลูกรองรับ ให้พร้อมบังคับใช้โดยเร็ว“ร.อ.ธรรมนัส กล่าว