KEY
POINTS
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันภาครัฐจำเป็นต้องลงรายละเอียดในการปฏิบัติราชการมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทุกสถานการณ์ล้วนส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจประเทศตามความเกี่ยวเนื่องระหว่างกัน การเดินเกมส์ให้ทันความท้าทายจะช่วยให้ภาคธุรกิจไทยสามารถรับมือทุกเหตุการณ์ได้อย่างทันท่วงทีและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงจุด โดยมีภาครัฐให้การสนับสนุนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริมสนับสนุนของกรมฯ และสำรวจย่านการค้าวัดโพธิ์พบปะผู้ประกอบการค้าปลีก (จำหน่ายของที่ระลึก) เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเชิงรุกที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและภาคธุรกิจในทุกมิติ โดยกรมฯ พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็นทั้งปัญหา อุปสรรค ความต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือ รวมทั้ง แนวทางการพัฒนาธุรกิจในมุมมองของผู้ประกอบการ
โดยจะช่วยให้ภาครัฐสามารถนำความคิดเห็นนั้นมาวางแผนพัฒนาผู้ประกอบการ ธุรกิจได้ตรงตามความต้องการ รวมทั้ง นำมาวิเคราะห์และประมวลผลเพื่อสร้างเป็นโมเดลการแก้ปัญหาของภาคธุรกิจ พร้อมนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจอื่นที่มีลักษณะทางกายภาพที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งจะทำให้การช่วยเหลือสนับสนุนของภาครัฐมีความรอบด้านมากขึ้น
นางอรมน กล่าวว่า ได้หารือกับผู้ประกอบการแฟรนไชส์ “เฮียเล็กเกาเหลาหมูสามอย่าง” ที่สาขาพาหุรัด ปัจจุบันมีการขยายธุรกิจเป็นแฟรนไชส์ มี 7 สาขาทั่วประเทศ และต่างประเทศ 1 สาขา ซึ่งถือว่าเป็นแฟรนไชส์ ตัวอย่างที่มีศักยภาพมีสาขาทั้งในและต่างประเทศ
โดยร้านเฮียเล็กเกาเหลาสามอย่าง ได้ผ่านการอบรม 2 หลักสูตร เพื่อพัฒนาธุรกิจสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ โดยเริ่มต้น เป็นร้านเล็กๆ ในตลาดพาหุรัด ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่ถนนเยาวราชและมีการขยายสาขาเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันแฟรนไชส์ มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ สร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า 300,000 ล้านบาท และมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 15-20 ต่อปี ล่าสุด มีธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ (Franchise Standard) จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 545 ราย
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น กรมฯ มีหลายกลไกในการช่วยเหลือ ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่อยู่ในการส่งเสริม ทั้งการบริหารจัดการต้นทุน โดยเฉพาะเรื่องการประสานแหล่งวัตถุดิบจากผู้ผลิตโดยตรง รวมทั้งสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี มาบริหารจัดการหลังร้าน และเพิ่มยอดขายผ่านแอพดิลิเวอรี่ต่างๆ
อีกทั้งเพื่อให้ธุรกิจแฟรนไชส์ เป็นกลไกสำในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับผู้ที่ต้องการเป็น ผู้ประกอบการได้ง่ายๆ และต้นทุนต่ำ ผ่านโมเดลที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว ซึ่งปีงบประมาณหน้า จะมีโครงการแฟรนไชส์โรดโชว์ทั่วประเทศ และบุกตลาดต่างประเทศ
นายวสันต์ เอื้ออำนวยชัย CEO บริษัท เฮียเล็กเกาเหลาหมูสามอย่าง จำกัด เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการไทย กำลังเผชิญความท้าทายด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะกำลังซื้อที่ลดลงอย่างชัดเจน และต้นทุนการผลิตและต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้น และการขายผ่านแอพที่โดนหักส่วนแบ่ง ทำให้ต้องปรับตัวทำแฟรนไชส์ขนาดเล็กลง
โดยจากปกติราคาเริ่มต้น จะอยู่ที่ 950,000 บาท ปรับเป็นรูปแบบรถเข็น เริ่มที่ 165,000 บาท เพื่อปรับตัวให้ได้มากที่สุด เพราะต้องยอมรับว่า ยอดขายอาหารไปถึง 50% ซึ่งคาดหวัง ให้มีนโยบายระยะสั้น เพื่ออัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ โดยโครงการคนละครึ่ง เป็นนโยบายที่ตรงที่สุด สามารถดึงเงินในกระเป๋าประชาชนได้ด้วย