ลุ้น “เงินช่วยเหลือชาวนา” นบข.ไฟเขียว 4 ส.ค. 68 รับสูงสุดไร่ละ 1,200 บาท

30 ก.ค. 2568 | 05:43 น.
อัปเดตล่าสุด :31 ก.ค. 2568 | 10:41 น.

“เงินช่วยเหลือชาวนา” ปี 2568/69 คืบ “นบข.” เล็งทุบโต๊ะ 4 ส.ค.นี้ ลุ้นรับเงินไร่ละ 1,000 หรือรับ สูงสุด 1,200 รอฟังข่าวดี ได้เลย

ความคืบหน้า “เงินช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท” ล่าสุด คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการผลิต ที่มีนายอรรถกร ศิริลักธยากร รัฐมตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในที่ประชุม เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 มีมติไฟเขียวโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2568/2569 โครงการไร่ละ 1,000บาท ไม่เกิน 10 ไร่  ปรับใหม่ จ่ายเงินช่วยชาวนา เพิ่มไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ สูงสุด 12,000 บาท  วงเงิน 45,492.93  ล้านบาท 

 

ลุ้น “เงินช่วยเหลือชาวนา” นบข.ไฟเขียว 4 ส.ค. 68 รับสูงสุดไร่ละ 1,200 บาท

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้รับการติดต่อจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ แจ้งจะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มีนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ในวันที่ 4 สิงหาคม 2568

ทั้งนี้ทางสมาคมจะติดตามเงินช่วยเหลือ เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรัง 2568 ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ จ่ายสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท มีเกษตรกรที่มาขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร จำนวน 8.5 แสนครัวเรือน คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 7 พันกว่าล้านบาท เป็นเรื่องที่เร่งด่วน ซึ่งในที่ประชุม นบข. รอบนี้เป็นวาระเข้าสู่ที่ประชุมเป็นรอบที่ 3 ซึ่งได้มีการอนุมัติที่จะจ่ายทุกครั้ง ชาวนาก็รอความหวังอยู่ว่าจะได้แน่นอน โดยประธานฯ ก็รับปากว่าได้ ไม่มีปัญหา

 

ลุ้น “เงินช่วยเหลือชาวนา” นบข.ไฟเขียว 4 ส.ค. 68 รับสูงสุดไร่ละ 1,200 บาท

 

ส่วนในเรื่องทบทวน “เงินช่วยเหลือชาวนา” ปรับใหม่ จากไร่ละ 1,000 บาท เป็นไร่ละ 1,200 บาท จ่ายสูงสุดไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรในการช่วยลดภาระต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายใน การจัดการและเพื่อจูงใจให้เกษตรกรพัฒนา คุณภาพข้าวให้ได้มาตรฐาน บาท  วงเงิน 45,492.93  ล้านบาทนั้น ก็ไม่มีปัญหา ซึ่งหากรัฐบาลยินดีที่จะจ่ายเพิ่ม เกษตรกรไม่ปฏิเสธอยู่แล้วเป็นเรื่องที่ดี แล้วให้เร่งเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเร็วที่สุด รวมถึงมาตรการอื่น ๆ ด้วย

ที่ผ่านคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด (คณะอนุกรรมการ นบข.ด้านตลาด) โดยกรมการค้าภายในเป็นผู้เสนอเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568  พ่วง 3 มาตรการ  ดังนี้

  • 1.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2568/69 ให้เกษตรกรเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉางตนเอง 1–5 เดือน ได้รับค่าฝากเก็บ 1,500 บาท/ตัน เป้าหมาย 3 ล้านตัน โดยราคาสินเชื่อข้าวหอมมะลิ 13,000 บาทต่อตัน ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 11,500 บาทต่อตัน ข้าวเจ้า 8,000 บาทต่อตัน ข้าวปทุมฯ 9,000 บาทต่อตัน ข้าวเหนียว 10,000 บาทต่อตัน วงเงินงบประมาณจ่ายขาดไม่เกิน 9,305.06 ล้านบาท
  • 2.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปีการผลิต 2568/69 ธ.ก.ส. สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้สถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เป้าหมาย 1.5 ล้านตันวงเงินจ่ายขาด 656.25 ล้านบาท
  • 3.โครงการชดเชยดอกเบี้ยผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก ปีการผลิต 2568/69 โรงสีเก็บสต็อก 2–6 เดือน รัฐชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี เป้าหมาย 4 ล้านตัน วงเงินงบประมาณจ่ายขาด 642.00 ล้านบาท และ 4.ช่วยเหลือเงินให้เกษตรกรในการปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมในอัตรา 1,500 บาทต่อไร่ ประมาณ 1 ล้านไร่ (10% ของพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม หรือ 9.85 ล้านไร่) วงเงินงบประมาณ 1,500.00 ล้านบาท รวมงบประมาณรวมทั้งสิ้น 39,435.36 ล้านบาท

โดยให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และการดำเนินโครงการในกิจกรรมปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าว ประกอบด้วย กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงพาณิชย์ ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเสนอ นบข. ก่อนเสนอ ครม. พิจารณาต่อไป