ความคืบหน้า “เงินช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท” ล่าสุด คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ด้านการผลิต ที่มีนายอรรถกร ศิริลักธยากร รัฐมตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในที่ประชุม เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 มีมติไฟเขียวโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2568/2569 โครงการไร่ละ 1,000บาท ไม่เกิน 10 ไร่ ปรับใหม่ จ่ายเพิ่มไร่ละ 1,200 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ สูงสุด 12,000 บาท วงเงิน 45,492.93 ล้านบาท นั้น
แหล่งข่าวคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ ด้านการผลิต เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงการอนุมัติทบทวนมติของ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในที่ประชุม ได้มีมติขอทบทวน “เงินช่วยเหลือชาวนา” ปรับใหม่ จากไร่ละ 1,000 บาท เป็นไร่ละ 1,200 บาท จ่ายสูงสุดไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้เกษตรกรในการช่วยลดภาระต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายใน การจัดการและเพื่อจูงใจให้เกษตรกรพัฒนา คุณภาพข้าวให้ได้มาตรฐาน นั้นจะทำได้หรือไม่
เนื่องจากมติ ที่ประชุม นบข. ให้มาทบทวนการจ่ายเงินช่วยเหลือนาปรัง ว่าจะจ่ายหรือไม่ ส่วนนาปี ก็มีมติออกมาแล้วให้จ่ายเงินช่วยเหลือไร่ ละ 1,000 บาท แบ่งเงินจ่ายตรง 500 บาทไม่เกิน 10 ไร่ และอีก 500 บาท จ่ายไม่เกิน 10 ไร่ ก็ให้ไปซื้อปุ๋ย ผ่านแอป ธ.ก.ส. โดยมาตรการนี้ผ่านคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติด้านการตลาด (คณะอนุกรรมการ นบข.ด้านตลาด) โดยกรมการค้าภายในเป็นผู้เสนอเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 พ่วง 3 มาตรการ ดังนี้
และ 3.ช่วยเหลือเงินให้เกษตรกรในการปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมในอัตรา 1,500 บาทต่อไร่ ประมาณ 1 ล้านไร่ (10% ของพื้นที่ที่ไม่เหมาะสม หรือ 9.85 ล้านไร่) วงเงินงบประมาณ 1,500.00 ล้านบาท รวมงบประมาณรวมทั้งสิ้น 39,435.36 ล้านบาท โดยให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และการดำเนินโครงการในกิจกรรมปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสมในการปลูกข้าว ประกอบด้วยเกษตร พาณิชย์ ธ.ก.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเสนอ นบข. ก่อนเสนอ ครม. พิจารณาต่อไปนั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ครั้งที่ 2/2568 ได้มีมติให้คณะอนุผลิตฯ ทบทวนมติการจ่ายเงินช่วยเหลือนาปรัง ปี 2568 แต่กลายเป็นการทบทวนคนละขั้วผิดฝาผิดตัว แต่เชื่อว่าเป็นความตั้งใจนายอรรถกร ที่ต้องการซื้อใจชาวนาทั้งประเทศประมาณ 14 ล้านเสียง แล้วถ้าไม่ได้ก็ไม่ได้เสียเปรียบ เพราะจะออกตัวว่าทำเต็มที่แล้ว แถมเกทับเพิ่มจ่ายให้อีกไร่ละ 200 บาทเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความมั่นคงในอาชีพของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว
สรุปวงเงินงบประมาณ (เงินทุน ธ.ก.ส. ส่ารองจ่ายการด่าเนินงานตามโครงการ) จ่าย 1,200 บาท ไม่เกิน 10 ไร
ส่วนต่างจาก มติ นบข.26 มิ.ย. 68 จ่ายไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ 7,580.72 ล้านบาท
ทั้งนี้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2568/69 ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร ประมาณ 4.63 ล้านครัวเรือน ประมาณการพื้นที่ได้รับสิทธิ 36.77 ล้านไร่ ได้รับเงินช่วยเหลือตาม เงื่อนไขโครงการ
การจ่ายเงิน
กรมส่งเสริมการเกษตรน่า ข้อมูลรายชื่อเกษตรกรที่ผ่าน การขึ้นทะเบียนเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2568/69 ส่งให้ ธ.ก.ส. บริหารจัดการข้อมูลและประมวลผล เพื่อด่าเนินการจ่ายเงินให้ เกษตรกร โดยโอนเงิน สนับสนุนช่วยเหลือเข้าบัญชี เงินฝากของเกษตรกรโดยตรง ซึ่งบัญชีเงินฝากต้องมี คุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ของโครงการ
ระยะเวลาจ่ายเงิน
หลังจากที่คณะรัฐมนตรี และ คณะกรรมการ ธ.ก.ส. มีมติ เห็นชอบให้ด่าเนินโครงการ จนถึง วันที่ 30 ก.ย. 69
งบประมาณและค่าใช้จ่ายในการด่าเนินโครงการ
รัฐบาลใช้เงินทุน ธ.ก.ส. ส่ารองจ่าย การด่าเนินงานตามโครงการ โดยจัดสรรงบประมาณในอัตรา ต้นทุนทางการเงิน ของ ธ.ก.ส. ประจ่าไตรมาส บวก 1 ปัจจุบัน รวมอยู่ที่ร้อยละ 3.05 ต่อปี ของวงเงินงบประมาณรวม