วันนี้ (26มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในระหว่างการเป็นประธานการประชุมหารือประเด็นผลกระทบมาตรการการปิดด่านชายแดนไทย - กัมพูชา ในการลงพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว หลังจากฟังบรรยายสรุปผลกระทบมาตรการการปิดด่านชายแดนไทย - กัมพูชา จุดผ่านแดนและจุดผ่อนปรนในพื้นที่รับผิดชอบของด่านศุลกากรอรัญประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน รวมถึงขอให้มีการสื่อสารทำความเข้าใจข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนหรือความเข้าใจคลาดเคลื่อนด้านข้อมูลข่าวสาร
โดยนายกรัฐมนตรี รับฟังรายงานที่มีการระบุถึงมาตรการปิดด่านชายแดนส่งผลให้ไม่มีการนำเข้าและส่งออกสินค้าในทุกจุดผ่านแดน ส่งผลให้ในแต่ละวันของทุกจุดผ่านแดน ได้รับผลกระทบต่อมูลค่าการค้าอยู่ที่วันละประมาณ 330 ล้านบาท จึงมอบหมายกระทรวงพาณิชย์ ให้เร่งให้ความช่วยเหลือในด้านการระบายสินค้าคงค้าง และเยียวยาผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยเร็ว
พร้อมกันนี้นายกฯมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยประสานความช่วยเหลือผ่านกลไกของผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนได้อย่างทั่วถึง พร้อมเน้นย้ำให้มีการตรวจสอบกระบวนการร้องขอความช่วยเหลือจากประชาชน และทบทวนมาตรการที่มีอยู่ เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว โปร่งใส และเป็นธรรม
“สำหรับบริษัทเอกชนที่อยู่นอกอำนาจรัฐแต่มีพฤติกรรมหรือการดำเนินงานที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะกรณีเกี่ยวกับอาชญากรรมข้ามชาติ จะมีการพิจารณาดำเนินการอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาความมั่นคงของประเทศอย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ระบุ
นายกฯ กล่าวว่า การดำเนินมาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นปัญหาที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน โดยรัฐบาลตระหนักดีว่าการจำกัดการเข้า-ออกบริเวณชายแดนส่งผลกระทบต่อประชาชนและภาคธุรกิจในพื้นที่ ซึ่งการลงพื้นที่ในครั้งนี้เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และหารือแนวทางในการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด
ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 1 ได้รายงานผลการกำหนดมาตรการผ่อนปรนการเดินทางผ่านด่านคลองลึก จังหวัดสระแก้ว เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนทั้งสองประเทศ โดยชาวกัมพูชา สามารถเดินทางเข้ามาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคได้ เฉพาะผู้ถือ Border Pass ของจังหวัดบันเตียเมียนเจยเท่านั้น โดยไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะเข้ามา ยกเว้นจักรยาน 2 ล้อ และอยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ไม่เกิน 1 วัน ซึ่งเปิดให้เข้าวันละ 3 รอบ ดังนี้ 1. 08.00 - 09.30 น. (300 คน) 2. 10.30 - 12.00 น. (300 คน) และ 3. 13.00 - 15.00 น. (400 คน)