นับถอยหลัง ผู้ผลิต (ล้ง) ผู้ส่งออก ผู้นำเข้าทุเรียน ตามมาตรฐานบังคับ เรื่อง หลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียนสำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ (มกษ.9070-2566) (คลิกอ่าน) ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานบังคับดังกล่าว ภายใต้พระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551 ผู้ผลิต ต้องมี 1.ใบอนุญาตเป็นผู้ผลิต(มกษ.2) 2.ใบรับรองตามมาตรฐานบังคับตาม มกษ.9070-2566
ส่วนผู้ส่งออก ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ส่งออก (มกษ.4) เช่นเดียวกับผู้นำเข้า ต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้นำเข้า (มกษ.6) และที่สำคัญการส่งออก-นำเข้า แจ้งผ่านระบบ TAS-License รวมถึงผู้ส่งออกต้องแนบใบอนุญาตและใบรับรองของผู้ผลิตด้วย โดยต้องขออนุญาตให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 10 กรกฎาคม 2568 นี้ เท่านั้น
นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี กรรมการในคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงมาตรฐานบังคับ เรื่อง หลักปฏิบัติในการตรวจและรับผลทุเรียนสำหรับโรงรวบรวมและโรงคัดบรรจุ (มกษ.9070-2566) ส่งผลทำให้ล้ง มีต้นทุนเพิ่ม เมื่อบังคับใช้ก็ต้องปฏิบัติตามระเบียบ ส่วนปัญหาการปิดชายแดนไม่มีผลกระทบ วันนี้ (23 มิ.ย.68) จึงไม่มีเรื่องนี้เข้าวาระในที่ประชุม
สอดคล้องกับนายพีรพันธ์ คอทอง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะเลขาคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) กล่าวว่าส่วนใหญ่สินค้าผลไม้โดยเฉพาะภาคตะวันออกมีการเก็บเกี่ยวไปแล้ว อาทิ มังคุด ทุเรียน กว่า 90% ไม่กระทบ เนื่องจากในเวลานี้มีการจัดระเบียบหันมาพึ่งพาตลาดในประเทศและส่งออกไปประเทศอื่น โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดหลัก และที่สำคัญมีแผนการบริหารจัดการนำมากระจายตลาดภายในประเทศได้แล้ว โดยกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งตลาดกัมพูชาไม่ใช่ตลาดใหญ่ผลไม้ไทย รวมทั้งเส้นทางส่งออกผลไม้ไม่ได้ใช้เส้นทางผ่านชายแดนไทย-กัมพูชา เลย