เศรษฐกิจไทยเสี่ยงเงินฝืด จีดีพี โตไม่ถึง 2% จี้รัฐเร่งอัดฉีดเงิน

12 มิ.ย. 2568 | 06:52 น.
อัปเดตล่าสุด :12 มิ.ย. 2568 | 07:28 น.

นักวิชาการเตือนเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกโตต่ำ เสี่ยงเข้าสู่ภาวะเงินฝืด ชี้รัฐใช้เงินกระตุ้นช้า เจรจาภาษีสหรัฐฯ ไม่สำเร็จ อาจฉุดจีดีพีปีนี้โตต่ำกว่า 1%

ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า ปัจจุบันไทยยังมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือน เม.ย. และ พ.ค.เริ่มติดลบ แม้ว่าจะเกิดจากปัจจัยราคาน้ำมันที่ปรับลดลง 

อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานจะเห็นว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า1% เช่นกัน ชี้ให้เห็นว่ากำลังซื้ออ่อนแอ ซึ่งหากเศรษฐกิจไทยชะลอแบบถลำลึกไทยอาจจะเข้าสู่ภาวะเงินฝืดได้

สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ว่าคาดว่าจะโตเพียง 1% ส่วนช่วงครึ่งปีแรกอาจโต 2% ซึ่งหากช่วงครึ่งปีหลังรัฐบาลไม่สามารถผลักดันให้เศรษฐกิจโตได้ 2% อาจฉุดให้จีดีพีไทยทั้งปีนี้โตต่ำกว่า 2%

ทั้งนี้รัฐบาลจะต้องเร่งการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.75แสนล้านบาทโดยเร็ว,เร่งฟื้นตลาดท่องเที่ยวจีนผลักดันให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ไม่ต่ำกว่า 35 ล้านคน 

ขณะที่ ธปท.จะต้องใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย ลดดอกเบี้ยลงอีก 0.5% ภายในปีนี้ รวมทั้งแก้ปัญหาการเมือง เพื่อไม่ให้เกิดการยุบสภา เพราะจะส่งผลต่อการใช้งบกระตุ้นเศรษฐกิจล่าช้าออกไปอีก ซึ่งหากทำได้ คาดว่าจีดีพีไทยปีนี้น่าจะโตได้ 1.5-2 %ตามเป้าเดิม

นอกจากนี้ต้องจับตามาตรการภาษีของสหรัฐฯหลังครบกำหนดผ่อนผันในวันที่ 7 ก.ค.2568 ซึ่งหากไทยและประเทศต่างๆ เจรจาไม่สำเร็จ โดยสหรัฐฯประกาศใช้ภาษีตอบโต้ทุกประเทศทั่วโลกคาดว่าจะส่งผลกระทบฉุดให้จีดีพีไทยลดลง 2% และอาจทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้โตต่ำกว่า1%