วิธีเช็คสิทธิ์ เงินประกันภัยข้าวนาปี 2567 ผ่านเว็บไซต์ rice.tgia.org

07 มิ.ย. 2568 | 07:00 น.

ชาวนาเช็คด่วน! สมาคมประกันวินาศภัยไทย แจ้งข่าวดี 12 บริษัทประกันภัย เริ่มทยอยโอนเงินให้ชาวนาที่ประสบภัยน้ำท่วม ในโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2567 ตรวจสอบสถานะผ่านเว็บไซต์ rice.tgia.org ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2567 ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยกำหนดเป้าหมายของพื้นที่รับประกันภัยทั้งหมดประมาณ 21 ล้านไร่ ซึ่งภาครัฐให้การสนับสนุนค่าเบี้ยประกันภัย จำนวนทั้งสิ้น 2,302.16 ล้านบาท ประกอบด้วย วงเงินที่รัฐบาลอุดหนุน จำนวน 1,612.16 ล้านบาท และวงเงินที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยให้แก่ลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. จำนวน 690 ล้านบาท

วิธีเช็คสิทธิ์ เงินประกันภัยข้าวนาปี 2567 ผ่านเว็บไซต์  rice.tgia.org

ปีนี้ สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้รับความร่วมมือจากบริษัทประกันวินาศภัยที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการรับประกันภัยโครงการประภัยข้าวนาปีมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทรับประกันภัยต่อจากทั่วโลกเข้ามาร่วมในโครงการ เพื่อสนองต่อนโยบายภาครัฐที่ต้องการให้เกษตรกรได้รับการช่วยเหลือและบรรเทาความเสียหายจากภัยต่าง ๆ โดยมีบริษัทประกันวินาศภัยเข้าร่วมรับประกันภัย จำนวน 12 บริษัท ได้แก่

     1. บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)

     2. บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน)

     3. บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

     4. บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

     5. บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) 

     6. บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน)

     7. บริษัท ฟอลคอนประกันภัย จำกัด (มหาชน)

     8. บริษัท มิตซุย สุมิโตโม อินชัวรันซ์ จำกัด สาขาประเทศไทย

     9. บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

    10. บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)

    11. บริษัท เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

    12. บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน)

สำหรับการประกันภัยข้าวนาปีให้ความคุ้มครองภัยต่าง ๆ รวม 8 ภัย ได้แก่ น้ำท่วมหรือฝนตกหนัก ภัยแล้ง ฝนแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ลมพายุหรือพายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาวหรือน้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ ไฟไหม้ ภัยจากช้างป่า ภัยศัตรูพืชและโรคระบาด โดยมีวงเงินความคุ้มครองและเบี้ยประกันภัย แบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้

1.ความคุ้มครองการประกันภัยพื้นฐาน (Tier 1) มีวงเงินความคุ้มครอง 1,190 บาทต่อไร่ ยกเว้น ภัยศัตรูพืชและโรคระบาด มีวงเงินความคุ้มครอง จำนวน 595 บาทต่อไร่ โดยมีเบี้ยประกันภัย ดังนี้

          (1) สำหรับลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. เบี้ยประกันภัย 115 บาทต่อไร่ (สำหรับทุกพื้นที่ความเสี่ยงภัย) ซึ่งในส่วนนี้ได้รับการอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยจากรัฐบาลและจาก ธ.ก.ส. โดยเกษตรกรไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย

          (2) สำหรับเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่นำร่อง เบี้ยประกันภัย 70 บาทต่อไร่ รัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย 65 บาทต่อไร่ เกษตรกรจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเพียง 5 บาทต่อไร่เท่านั้น

         (3) สำหรับเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงภัยปานกลาง เบี้ยประกันภัย 199 บาทต่อไร่ รัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย 69 บาทต่อไร่ เกษตรกรจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย 130 บาทต่อไร่

 

          (4) สำหรับเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงภัยสูง เบี้ยประกันภัย 218 บาทต่อไร่ รัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย 69 บาทต่อไร่ เกษตรกรจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย 149 บาทต่อไร่

ทั้งนี้ ภาครัฐได้ให้การอุดหนุนในส่วนของอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่มในทุกพื้นที่ที่มีการเอาประกันภัยด้วย

     2. ความคุ้มครองการประกันภัยส่วนเพิ่ม (Tier 2) เป็นการซื้อประกันภัยเพิ่มเติมจากการประกันภัยพื้นฐาน โดยเกษตรกรต้องชำระเบี้ยประกันภัยเองทั้งหมด ซึ่งมีวงเงินความคุ้มครอง 240 บาทต่อไร่ ยกเว้นภัยศัตรูพืชและโรคระบาด มีวงเงินความคุ้มครอง 120 บาทต่อไร่ ทั้งนี้เบี้ยประกันภัยยังไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีเบี้ยประกัยภัย ดังนี้

          (1) พื้นที่นำร่องและพื้นที่เสี่ยงภัยต่ำ 27 บาทต่อไร่

          (2) พื้นที่เสี่ยงภัยปานกลาง 60 บาทต่อไร่

          (3) พื้นที่เสี่ยงภัยสูง 110 บาทต่อไร่            

ล่าสุดทางสมาคม แจ้งข่าวดีว่า 12 บริษัทประกันที่ได้เข้าร่วมประกันภัย เริ่มทยอยให้กับชาวนาแล้วที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว ชาวนาสามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ มะลิ  ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

วิธีเช็คสิทธิ์ เงินประกันภัยข้าวนาปี 2567 ผ่านเว็บไซต์  rice.tgia.org

หลังจากนั้นกรอกเลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก

  • ชื่อ นามสกุล 
  • ปีการผลิต
  • คลิก  ตรวจสอบ