น้ำยังไม่ล้น! 4 เขื่อนใหญ่จุได้อีก 47% กรมชล เร่งจัดจราจรน้ำลดผลกระทบ

02 มิ.ย. 2568 | 11:41 น.
อัปเดตล่าสุด :02 มิ.ย. 2568 | 11:49 น.

กรมชลประทานเผย 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา "ภูมิพล สิริกิติ์ แควน้อย ป่าสักชลสิทธิ์" ยังรองรับน้ำได้อีกกว่า 47% ของความจุรวม เดินหน้าบริหารจัดการน้ำเชิงรุก รองรับฝนตกหนักจากอิทธิพลมรสุมและลดผลกระทบพื้นที่ลุ่มต่ำอย่างใกล้ชิด

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ส่งผลให้บริเวณภาคเหนือและภาคกลางตอนบนยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขณะที่ภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่

ปัจจุบัน (2 มิ.ย. 68) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวม 43,194 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 56% ของความจุอ่างฯ รวมกัน ยังสามารถรับน้ำได้อีก 33,296 ล้าน  ลบ.ม. หรือ 44%

น้ำยังไม่ล้น!  4 เขื่อนใหญ่จุได้อีก 47% กรมชล เร่งจัดจราจรน้ำลดผลกระทบ

โดยเฉพาะ 4 เขื่อนหลักในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำรวม 13,122 ล้าน ลบ.ม. หรือ 53% ของความจุอ่างรวมกัน ยังสามารถรับน้ำได้อีก 11,749 ล้าน ลบ.ม. หรือ 47% ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ “น้ำพอใช้”

ด้านการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา กรมชลประทานได้ปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์รวมกันลงถึงวันละ 15 ล้าน ลบ.ม. (จากเดิมระบายน้ำรวมวันละ 30 ล้าน ลบ.ม.) พร้อมกับดำเนินการจัดจราจรน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง โดยน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ตอนบนจะไหลรวมลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณสถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ พบว่ามีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,341 ลบ.ม./วินาที คิดเป็น 37% ของลำน้ำ และยังคงมีแนวโน้มทรงตัว โดยมีการกระจายน้ำเข้าระบบชลประทานสองฝั่งรวม 329 ลบ.ม./วินาที จากนั้นระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาที่อัตรา 1,100 ลบ.ม./วินาที

น้ำยังไม่ล้น!  4 เขื่อนใหญ่จุได้อีก 47% กรมชล เร่งจัดจราจรน้ำลดผลกระทบ

สถานการณ์นี้ส่งผลต่อพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ อาทิ คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง และแม่น้ำน้อย อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งพบว่าวันนี้ (15.00 น.) สถานีวัดน้ำ C.67 บริเวณสะพานหัวเวียง อำเภอเสนา ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 55 เซนติเมตร และมีแนวโน้มคงที่ ขณะที่สถานีวัดน้ำ C.68 บริเวณตลาดเสนา ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง 72 เซนติเมตร และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกของสถานการณ์

อย่างไรก็ดี กรมชลประทานยังคงจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมปรับแผนบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อบรรเทาผลกระทบให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์แจ้งข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนรับทราบเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง