"ซีพี” ดัน 7 บริษัทรับรอง มอก.9999 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงสู่ความยั่งยืน

20 พ.ค. 2568 | 04:33 น.
อัปเดตล่าสุด :20 พ.ค. 2568 | 04:54 น.

“ไม่ใช่แค่ปรัชญา แต่คือระบบที่วัดผลได้จริง” ซีพีดันองค์กรผ่าน มอก.9999 ยกระดับ 7 บริษัทในเครือ "ดร.สุเมธ" หนุนภาคธุรกิจเดินตามรอยเศรษฐกิจพอเพียง

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ย้ำบทบาทผู้นำองค์กรต้นแบบด้านความยั่งยืน นำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงจากศาสตร์พระราชาสู่การจัดการเชิงระบบ ผ่านการขับเคลื่อนมาตรฐาน มอก.9999 ล่าสุด 7 บริษัทในเครือผ่านการรับรองจาก สถาบันรับรองมาตรฐานไอเอสโอ (สรอ.) เป็นที่เรียบร้อย สะท้อนการยกระดับจากแนวคิดสู่การบริหารที่วัดผลได้จริงในมิติ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

"ซีพี” ดัน 7 บริษัทรับรอง มอก.9999 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงสู่ความยั่งยืน

พิธีมอบใบประกาศนียบัตรจัดขึ้น ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพฯ ภายใต้งาน “น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง สู่มาตรฐานแห่งความยั่งยืน มอก.9999” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษ พร้อมด้วย นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ นายจงรักษ์ โรจน์พลาเสถียร ผู้อำนวยการ สรอ. ร่วมมอบใบรับรอง

ดร.สุเมธ  ตันติเวชกุล  เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า มาตรฐาน มอก.9999 คือการนำคำสอนในหลวงรัชกาลที่ 9 มาสู่ระบบการบริหาร

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา

“ผมมีความสุขที่ได้เห็นภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะเครือซีพี น้อมนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้จริง ไม่ใช่เพียงคำพูด แต่เป็นการปฏิบัติที่ยั่งยืน เป็นการสานต่อพระราชปณิธานของในหลวงรัชกาลที่ 9 อย่างแท้จริง ทั้งนี้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไม่ใช่แค่แนวทางส่วนบุคคล แต่สามารถประยุกต์ใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ การบริหารองค์กร และการทำงานร่วมกับสังคมอย่างมีคุณธรรมและสมดุล มอก.9999 คือกลไกที่ทำให้แนวคิดนี้กลายเป็นมาตรฐานที่วัดผลได้ และนำไปใช้ได้ทุกองค์กร” ดร.สุเมธ  กล่าว

 

สำหรับรายชื่อ 7 บริษัทต้นแบบของเครือซีพีที่ผ่าน มอก.9999 ได้แก่

1.บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด

2.บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) – ธุรกิจอาหารสัตว์บก

3.บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)

4.บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)

5.บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

6.ธุรกิจพืชครบวงจร ข้าว ขนส่งและบริการ และ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์วิศวกรรม จำกัด

7.บริษัท ซีพีแรม จำกัด

ชู “ความพอเพียง” เป็นรากฐานการบริหารธุรกิจ

ด้าน นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” มีความหมายลึกซึ้ง ไม่ใช่แค่ปรัชญาหรือมาตรฐาน แต่มีความหมายเป็นสัญลักษณ์ของคำสอนและแนวทางดำเนินชีวิตของในหลวงรัชกาลที่ 9  ทั้งนี้เครือซีพีได้น้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจมาใช้ในการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์

หลักคิดนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งและทำให้เราตระหนักว่า "องค์กรต้องทำธุรกิจบนพื้นฐานที่มั่นคงยั่งยืน ไม่ทำอะไรเกินตัว แต่ยังต้องเข้มแข็ง ไม่อ่อนแอ" ซึ่งเป็นสิ่งที่รัชกาลที่ 9 ท่านเป็นตัวอย่างให้กับประชาชนชาวไทยมาโดยตลอด ทั้งนี้เครือซีพีน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นและพร้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปปรับใช้ในองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม

"หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวคิดที่ทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่เพียงแค่ภาคธุรกิจ เพราะแนวคิดนี้มีความหมายลึกซึ้งเกินไปกว่าการเป็นคนเก่งและดี แต่ลึกลงไปถึงการมี "ความสุข" ในการทำหน้าที่ในทุกวัน” นายศุภชัย กล่าว

เสียงจากองค์กรต้นแบบ : ซีพีแรมเดินหน้าเชิงรุก

นายชุมพล ลีละศุภพงษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม จำกัด เปิดเผยว่า ซีพีแรมเริ่มต้นนำ มอก.9999 มาประยุกต์ใช้ตั้งแต่ปี 2565 โดยเริ่มจากโรงงานที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านแนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง” ไปสู่ระบบการบริหารที่จับต้องได้จริง

“เราได้นำหลัก ‘3 ห่วง 2 เงื่อนไข’ มาเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่การจัดการทรัพยากร การบริหารต้นทุน จนถึงการวางแผนระยะยาว ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจของเรามีความสมดุลมากขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม และในอนาคตเราจะขยายแนวปฏิบัตินี้ไปยังซัพพลายเออร์เพิ่มขึ้นต่อไป”นายชุมพล  กล่าว

"ซีพี” ดัน 7 บริษัทรับรอง มอก.9999 ขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงสู่ความยั่งยืน

สำหรับมาตรฐาน มอก.9999 เป็นแนวทางที่กระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำขึ้นบนฐานของหลัก “3 ห่วง 2 เงื่อนไข” ได้แก่ ความพอประมาณ มีเหตุผล ภูมิคุ้มกัน โดยมีเงื่อนไขคือ ความรู้และคุณธรรม เพื่อยกระดับการบริหารองค์กรแบบพอเพียง ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้เครือซีพียังได้จัดตั้ง “คณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงสู่ มอก.9999” เพื่อรวมพลังจากทุกกลุ่มธุรกิจ ตั้งเป้าขยายผลสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับโครงสร้างและระดับชุมชน โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือ “การเติบโตที่มั่นคง บนพื้นฐานที่สมดุล”