พาณิชย์ขึ้นทะเบียน GI "เตยหอมปทุม" สร้างรายได้เกษตรกร 32 ล้าน/ปี

15 พ.ค. 2568 | 07:44 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ค. 2568 | 07:54 น.

"พาณิชย์" ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) “เตยหอมปทุม” สินค้าตัว GI ตัวล่าสุด คุณภาพดี มีอัตลักษณ์ กลิ่นหอม สีสวย กอใหญ่ ใบกว้างยาว และผิวใบมันเงา สร้างรายได้สู่เกษตรกร 32 ล้านบาทต่อปี

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยใช้ประโยชน์จากการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อคุ้มครองสินค้าท้องถิ่นชุมชนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในพื้นที่แหล่งผลิตสินค้าในแต่ละท้องถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า 

 

พาณิชย์ขึ้นทะเบียน GI "เตยหอมปทุม" สร้างรายได้เกษตรกร 32 ล้าน/ปี

 

ล่าสุดกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ประกาศขึ้นทะเบียน "เตยหอมปทุม" เป็นสินค้า GI ลำดับที่ 3 ของจังหวัดปทุมธานี ต่อจากกล้วยหอมทองปทุม และข้าวหอมปทุมธานี ที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI ไปก่อนหน้านี้

สำหรับ เตยหอมปทุม แหล่งปลูกใบเตยที่มีอัตลักษณ์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ด้วยพื้นที่ของจังหวัดปทุมธานี เป็นดินเหนียวมีความอุดมสมบูรณ์ มีน้ำขังเพียงพอ ส่งผลให้เตยหอมปทุมเจริญเติบโตได้ดีและมีอัตลักษณ์พิเศษ คือ มีกลิ่นหอม สีสวย กอใหญ่ ใบกว้างยาว ผิวใบมันเงา และกากใยของใบนิ่ม แตกต่างจากเตยหอมในพื้นที่อื่น 

 

พาณิชย์ขึ้นทะเบียน GI "เตยหอมปทุม" สร้างรายได้เกษตรกร 32 ล้าน/ปี

 

ทั้งนี้ เตยหอมปทุมจึงเป็นที่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนมไทย เช่น ขนมเปียกปูน ขนมชั้น กาละแม สังขยา และลอดช่อง เป็นต้นและเป็นที่ต้องการอย่างมากในตลาดผู้บริโภค จนกลายเป็นพืชท้องถิ่นที่เกษตรกรในพื้นที่นิยมปลูกมากที่สุด สร้างชื่อเสียงและรายได้สู่เกษตรกรในพื้นที่กว่า 32 ล้านบาทต่อปี 

นายนภินทร กล่าวทิ้งท้ายว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะเดินหน้าผลักดันการควบคุมคุณภาพสินค้าเตยหอมปทุมต่อไป เพื่อรักษาคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า ทั้งนี้ ขอเชิญทุกท่านร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการ GI และอุดหนุนสินค้า GI ไทย 

 

พาณิชย์ขึ้นทะเบียน GI "เตยหอมปทุม" สร้างรายได้เกษตรกร 32 ล้าน/ปี