นายพงศธร ฉัตรนะรัชต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ บียอนด์ จำกัด ในเครือซัสโก้ ให้สัมภาษณ์กับสื่อเครือเนชั่นว่า ซัสโก้ (Susco)ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจด้านพลังงานมานานกว่า 48 ปี มีผู้บริโภคส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้รถ และผู้เดินทาง แม้ปีที่แล้วยอดจำหน่ายยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัทจะลดลงไป 40% จากยอดขาย 7-8 แสนคัน เหลือแค่ 4-5 แสนคัน แต่ผลประกอบการอย่างอื่นโดยรวมปีที่แล้วถือเป็นนิวไฮ
“บริษัทมียอดขายใหม่ ที่ปัจจุบันไม่ใช่แค่น้ำมัน แต่เป็นรีเทลสถานีบริการน้ำมัน ที่คิดเป็น 30% ของกลุ่มธุรกิจร่วมกับพาร์ทเนอร์หลายแบรนด์ โดยมีสถานีบริการน้ำมันประมาณ 260 แห่ง นอกจากนี้ยังร่วมมือกับเอสโซ่ บางจากอีก 100 กว่าแห่ง เพื่อขยายสถานีบริการต่อเนื่อง”
สำหรับธุรกิจน้ำมันคาดจะยังโตเติบอีกซักระยะจนกว่าจะถึงช่วงความต้องการสูงสุด หรือ Demand Peak ที่น่าจะเห็นอีกประมาณสิบปีข้างหน้า แต่หลังจากนั้นจะโตช้าลง เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมยังใช้อยู่ ก่อนที่ตัวเลขการเติบโตจะนิ่งแต่คาดว่าคงเห็นภาพเหล่านี้ในอนาคตอีกไกล
ดังนั้นจากเดิมที่ทำธุรกิจน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ แอลพีจี ( LPG ) เรือขนส่งน้ำมัน บริษัทฯพยายามหา S-Curve ประกอบกับที่ทางซัสโก้เป็นเจ้าของที่ดินหลายแห่งและที่ดินมูลค่าเพิ่มขึ้น จึงมองหาโอกาสธุริกิจ Non-Oil ใช้พื้นที่สร้างผลตอบแทนให้มากยิ่งขึ้น พร้อมกับหาพาร์ทเนอร์ร้านค้าต่าง ๆ บริการ เช่น KFC Starbucks Lawson ทำให้ทุกปียังเติบโตเกิน 10% หรือยังเป็นตัวเลขสองหลัก
ขณะเดียวกันจะต่อยอดพื้นที่เกิน10 ไร่ทำ Community Mall ปักหมุดตามหัวมุมเมืองสี่แห่งในกรุงเทพฯ ที่เรียกว่า “Susco Square” เป็น Community Mall ที่มีสถานีบริการน้ำมันอยู่ในนั้น ประมาณ 10-20 % โดยเฉพาะสาขาที่ปิ่นเกล้าเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดทางตะวันตกของกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ใกล้เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เป็นพื้นที่ใหญ่ จะเปิดเร็ว ๆ นี้ และมีแบรนด์พาร์ทเนอร์อยู่มาก
ธุรกิจอีกส่วนหนึ่งขององค์กรที่ตั้งโดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มองว่าจากนี้ไปสิบปีข้างหน้าลูกค้ากลุ่มน้ำมันจะไม่โต จึงหาโซลูชันอย่างการใช้ Data ลูกค้ากว่า 3 แสนคนต่อวัน ทำธุรกิจต่อยอด Susco Beyond ในธุรกิจอะไรที่ Susco ไม่เคยทำ เพื่อเสริมรายได้บริษัทแม่ เช่น ธุรกิจรถไฟฟ้า สถานีชาร์จกว่า 70 แห่ง จากเป้า 100 แห่ง เป็นดีลเลอร์ที่เยอะสุดของ BYD และ รถตู้ Denza 11 โชว์รูม เวลานี้ทำมาเกือบครบสองปีเริ่มจากไม่มีประสบการณ์ และเปิดรับคนใหม่ และได้ใช้ระบบและประสบการณ์ของซัสโก้ที่มี จนขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งด้านรถไฟฟ้าในประเทศ
ส่วนธุรกิจลิสซิ่งให้เช่ารถบริการลูกค้า เริ่มเปิดแผนศูนย์บริการ ศูนย์ซ่อม ศูนย์ตัวถัง-สี หรือธุรกิจบริการต่าง ๆ แนวโน้มครึ่งปีหลังมียอดดีขึ้น และแนวโน้มรถไฟฟ้าน่าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีเทคโนโลยีและไม่มีมลภาวะ องค์กรต่าง ๆ จะได้หันมาใช้รถไฟฟ้าด้วย โดยทางซัสโก้สนับสนุนรถไฟฟ้าให้องค์กรสื่อใช้ อย่างสื่อเครือเนชั่น เพื่อเป็นแบบอย่างลดการปล่อยมลภาวะ ต้นทุนพลังงานต่ำกว่า การบำรุงรักษาง่าย และเสี่ยงอุบัติเหตุน้อย
ในอนาคตรถจะพัฒนาระบบจอดอัตโนมัติ โดยจะมีกล้องรอบคัน สามารถจอดแม่นยำกว่ามนุษย์ และมีนวัตกรรมรถยนต์ลงน้ำของ BYD โดยไม่ต้องกังวลว่าเครื่องยนต์จะดับหรือแบตเตอรี่จะมีปัญหา เนื่องจากมีความทนทาน หรือต่อให้วิ่งสองแสนกิโลเมตรแบตเตอรี่ก็ยังใช้งานได้ อนาคตบริษัทประกันก็จะเข้าใจบริบทตัวรถด้วย
สำหรับงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา BYD ขึ้นอันดับหนึ่ง และเป็นอันดับหนึ่งในหลายประเทศด้านยอดขาย โดยอาจฟังจากเสียงของผู้บริโภคที่ใช้รถ หรือสามารถทดลองขับได้ ทั้งของโชว์รูม BYD และ Denza กว่าสิบแห่ง หรือทดลองเช่าไปใช้ก่อนเพื่อพิสูจน์ประสบการณ์การขับขี่ ประกอบกับการบำรุงรักษาง่ายขึ้น เสมือนการอัพเกรดซอฟท์แวร์สมาร์ทโฟนแต่ละรุ่น