บีวายดี ปิดยอดขายทั่วโลกในปี 2567 ได้ 4,272,145 คัน เพิ่มขึ้น 41.3% เมื่อเทียบกับปี 2566 ในจำนวนนี้แบ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า EV จำนวน 1,764,992 คัน เติบโต 12% และรถปลั๊ก-อินไฮบริด PHEV 2,485,378 เติบโต 72.8%
ขณะเดียวกัน ยังถือเป็นครั้งแรกที่บีวายดี มียอดขายเกิน 4 ล้านคัน/ปี ส่วนประเทศไทย ในปี 2567 ได้ยอดจดทะเบียนประมาณ 27,000 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 4.7% เป็นอันดับ 4 ในตลาดรวม
นายหลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด เปิดเผยว่า การขึ้นภาษีตอบโต้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐ ไม่ส่งผลกระทบกับบีวายดี มากนัก เพราะบริษัทมีกระบวนการผลิตตั้งแต่ ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่นเดียวกับ Core Technology และชิ้นส่วนต่างๆ ได้ออกแบบและพัฒนาเอง ที่สำคัญบีวายดี ยังไม่ได้เข้าไปทำตลาดที่ประเทศสหรัฐอเมริกา
“การปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา ไม่ส่งผลเยอะต่อธุรกิจบีวายดี และถือเป็นโอกาสดีที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะปรับแผนนำทรัพยากรมาลงที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเรามองว่าเป็นประโยชน์สำหรับประเทศไทยมากกว่า”
นายหลิว เสวียเลี่ยง กล่าวว่า เร็วๆนี้ ยอดขายสะสมบีวายดี ในไทย จะครบ 80,000 คัน ถือเป็นตลาดที่กำลังเติบโต และเป็นฐานการผลิตสำคัญของบีวายดีในภูมิภาคนี้
ปัจจุบันโรงงานผลิตรถยนต์ บริษัท บีวายดี ออโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นไลน์ประกอบ EV รุ่น BYD DOLPHIN, BYD ATTO 3 และเอสยูวีปลั๊ก-อินไฮบริด BYD SEALION 6 DM-i
“โรงงานบีวายดี จ.ระยอง สามารถผลิตได้ทั้งรถพวงมาลัยซ้ายและขวา โดยจะเริ่มส่งออกภายในปีนี้ เริ่มจาก BYD SEALION 6 DM-i”
แม้เศรษฐกิจไทย จะไม่ได้เติบโตตามที่เราคาดหมาย ขณะที่ตลาดรถยนต์รวมยอดขายลดลงเล็กน้อย แต่เรายังดำเนินทุกอย่างตามแผน เช่นเดียวกับโรงงานผลิตที่วางห่วงโซ่อุปทานเอาไว้หมดแล้ว ซึ่งบีวายดี กำหนดให้ประเทศไทย เป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ในภูมิภาค และตามที่เคยประกาศว่า จะผลิตได้สูงสุด 150,000 คันต่อปี ภายใน 2 ปี ยังไม่เปลี่ยนเป้าหมาย
“ประเทศไทย เป็นตลาดที่มีความสำคัญสำหรับบีวายดี เราได้การตอบรับดีนับตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงปัจจุบัน และยังมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างจริงจัง พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ยานยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง” นายหลิว เสวียเลี่ยง กล่าวสรุป
ทั้งนี้ บีวายดี เตรียมเปิดตัวรถยนต์ใหม่ 3 รุ่นในไทยปี 2568 แบ่งเป็นแบรนด์ BYD 2 รุ่น และ DENZA 1 รุ่น โดยตั้งเป้าหมายยอดขายรวมไว้ 50,000 คัน