ส่งออกการ์เมนต์ผวาวิกฤตรอบใหม่ ภาษีสหรัฐป่วน ปีนี้คาดยอดวูบ 10%

06 พ.ค. 2568 | 23:33 น.

ส่งออกการ์เมนต์กังวล ส่งออกไปสหรัฐไตรมาส 3 ยอดวูบหนักแน่ รอลุ้นความชัดเจนภาษีนำเข้าหลังรัฐบาลไทยต่อรองสหรัฐ พร้อมเทียบภาษีกับประเทศคู่แข่งทั้งเวียดนาม กัมพูชา อินโดฯ ประเมินเบื้องต้นคาดทั้งปีนี้ยอดส่งออกรวมวูบไม่ตํ่า 10%

อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม หรือการ์เม้นต์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมสร้างชาติ และเป็นสินค้าส่งออกอันดับต้น ๆ ของไทยในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา และภาพรวมอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงในช่วงสถานการณ์โควิด แต่ได้เริ่มกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งหลังเหตุการณ์ผ่านพ้นไป และกำลังจะได้รับผลกระทบอีกครั้งจากนโยบายกำแพงภาษีของสหรัฐ เนื่องด้วยสินค้าเครื่องนุ่งห่มของไทยมีสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่ง

นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ กรรมการที่ปรึกษาสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย และอดีตนายกสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตัวเลขการส่งออกเครื่องนุ่งห่มของไทยช่วง 3 เดือนแรกปีนี้ยังขยายตัวได้ดี มีมูลค่าการส่งออก 560 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (18,932 ล้านบาท) ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 5% มีสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่ง มูลค่าส่งออก 218 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (7,382 ล้านบาท) ขยายตัว 23.37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“ยอดการส่งออกการ์เมนต์ในภาพรวม และการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว จริง ๆ แล้วมีส่วนสำคัญจากออร์เดอร์ที่สั่งซื้อกันไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยตัวเลขการส่งออกที่เพิ่มขึ้นอยู่ในเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ ส่วนเดือนมีนาคมของปีนี้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับเดือนเดียวกันของปีก่อนคือไม่โต”

ส่งออกการ์เมนต์ผวาวิกฤตรอบใหม่ ภาษีสหรัฐป่วน ปีนี้คาดยอดวูบ 10%

สำหรับทิศทางการส่งออกเครื่องนุ่งห่มของไทยไปยังตลาดสหรัฐ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชะลอการเก็บภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับ 90 ประเทศ (รวมทั้งไทย)ในอัตราตํ่าสุดและสูงสุดที่ 11-50% (ไทย 36%) ซึ่งเดิมจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2568 แต่เลื่อนออกไป 90 วัน

ต่อเรื่องดังกล่าวนายยุทธนา กล่าวว่า โดยปกติสินค้าเครื่องนุ่งห่มจะมีการสั่งซื้อล่วงหน้า 7-8 เดือน ซึ่งคู่ค้าก็ยังคงสั่งซื้อในลักษณะเช่นเดิม แต่สินค้าที่ต้องส่งมอบหลัง 90 วันนับจากที่สหรัฐชะลอการเก็บภาษีก็จะถูกดึงมาส่งมอบให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน หรือภายใน 90 วันก่อนที่สหรัฐจะเก็บภาษีตอบโต้ เพราะไม่เช่นนั้นจะถูกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูง ทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้น และขายยากขึ้น

ดังนั้นตัวเลขการส่งออกเครื่องนุ่งห่มของไทยไปสหรัฐ (ส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าสำเร็จรูป) ในช่วง 3 เดือนนับจากนี้คาดจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และหลังครบกำหนด 90 วันที่สหรัฐชะลอการเก็บภาษีแล้ว คาดตัวเลขการส่งออกจะหายไปมาก โดยคาดจะตัวเลขจะหายไปอย่างน้อย 3-5 เดือน เนื่องจากคู่ค้ามีสินค้าตุนสต๊อกในต้นทุนเดิมไว้มาก

“ส่วนสินค้าที่จะลงคำสั่งซื้อ หรือออร์เดอร์ใหม่ในช่วงนี้เพื่อเร่งผลิตและส่งมอบภายใน 90 วันคงไม่ทันแล้ว เพราะกว่าจะเจรจา กว่าจะสรุปต้องใช้เวลา ดังนั้นคงต้องรอผลการเจรจาของรัฐบาลไทยกับสหรัฐในเรื่องอัตราภาษีตอบโต้ ซึ่งกว่าจะสรุปได้ว่าสินค้าไทยไปสหรัฐจะเหลือภาษีกี่เปอร์เซ็นต์ สมมุติอาจจะไปสรุปได้ในอีก 2 เดือนข้างหน้า และได้ตัวเลขที่น่าพอใจ ลูกค้าก็จะกลับมาลงออเดอร์ใหม่ในอีก 2 เดือนข้างหน้า

ซึ่งหมายความว่าตัวเลขการส่งออกจะหายไปอีก 4-5 เดือน เพราะฉะนั้นในไตรมาส 3 ตัวเลขการส่งออกไปสหรัฐจะดร็อปลงไปเยอะแน่ ๆ รวมถึงตัวเลขในภาพรวม เพราะสหรัฐเป็นตลาดส่งออกของเราสัดส่วนมากกว่า 30%”

ดังนั้นการส่งออกเครื่องนุ่งห่มของไทยในปี 2568 ในภาพรวมทุกตลาด ในเบื้องต้นคาดจะลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 10% ทั้งนี้การลดลงจะมากน้อยเพียงใดขึ้นกับการเจรจาเรื่องอัตราภาษีของไทยกับสหรัฐ รวมถึงอัตราภาษีที่ประเทศคู่แข่งของไทยจะได้รับจากสหรัฐ และจะทำให้ได้เปรียบเสียเปรียบกันมากน้อยเพียงใด ซึ่งต้องจับตาเวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย ที่เป็นคู่แข่งสำคัญในสินค้านี้ของไทย