เปิด 4 บริษัทชิงเค้ก “ประมงคนละครึ่ง” ผวาสหรัฐขึ้นภาษีสูง-สัตว์น้ำทะลักไทย

30 เม.ย. 2568 | 21:30 น.

เปิด 4 บริษัท ชิงเค้กระบบติดตามตำแหน่งเรือ โครงการ “ประมงคนละครึ่ง” ช่วยลดภาระต้นทุนทำการประมง 9 เดือน ประธานสมาคมประมงฯ แนะใช้โมเดลต่างประเทศรัฐสนับสนุนจ่ายเต็มร้อยตลอดปี จี้ใช้จุดแข็งไทยแก้ IUU ตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่ต่อรองภาษีทรัมป์ ผวาสัตว์นํ้าเพื่อนบ้านทะลักทุบราคาตก

ย้อนไปปี 2558 สหภาพยุโรป (EU)ประกาศให้ใบเหลืองการทำประมง IUU แก่ประเทศไทยเมื่อเดือนเมษายน เพื่อเป็นการตักเตือนและกระตุ้นให้ไทยเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาและข้อบกพร่องในการควบคุมการประมงและต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU fishing) โดย 1 ใน 6 ข้อ เป็นเรื่องเร่งรัดการจัดระเบียบเรือประมงที่จะต้องติดตั้งระบบติดตามตำแหน่งเรือ (Vessel Monitoring System-VMS) ให้เเล้วเสร็จภายในวันที่ 22 ตุลาคม 2558

 

เปิด 4 บริษัทชิงเค้ก “ประมงคนละครึ่ง” ผวาสหรัฐขึ้นภาษีสูง-สัตว์น้ำทะลักไทย

 

จากวันนั้นผ่านมา 10 ปี เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ได้มี “โครงการประมงรวมใจ จ่ายระบบติดตามเรือประมงไทย (VMS) คนละครึ่ง” โดยสนับสนุนเงินร้อยละ 50 ของค่าบริการระบบติดตามเรือประมงรายเดือน สนับสนุนไม่เกิน 9 เดือน และโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของผู้เข้าร่วมโครงการโดยตรง จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นจากสำนักงบประมาณ

 

เปิด 4 บริษัทชิงเค้ก “ประมงคนละครึ่ง” ผวาสหรัฐขึ้นภาษีสูง-สัตว์น้ำทะลักไทย

นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึง “โครงการประมงรวมใจ จ่ายระบบติดตามเรือประมงไทย (VMS) คนละครึ่ง” โดยสนับสนุนเงินร้อยละ 50 ของค่าบริการระบบติดตามเรือประมงรายเดือน ว่า เป็นโครงการที่ดี เนื่องจากที่ผ่านมาเจ้าของเรือประมงต้องติดตั้งระบบติดตามเรือประมง และดูแลรักษาระบบดังกล่าว ให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ทำให้เจ้าของเรือประมงต้องมีภาระค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าว และเสียค่าบริการรายเดือน

โดยเรือประมงพาณิชย์ ที่มีขนาดตั้งแต่ 30 ตันกรอส ขึ้นไป ต้องติดตั้งระบบ VMS ตามประกาศจากกรมประมง โดยให้เจ้าของเรือติดต่อกับ บริษัท ผู้ให้บริการระบบ VMS ที่ผ่านการรับรองและขึ้นทะเบียนต่อกรมประมง เพื่อทำการติดตั้งอุปกรณ์ติดตามเรือประมง VMS ที่ปัจจุบันมีอยู่ 4,787 ลำ และเรือขนถ่ายสัตว์นํ้าในน่านนํ้าไทย จำนวน 31 ลำ พบว่าติดตั้งอุปกรณ์ VMS รุ่นที่ 1 จำนวน 4,318 ลำ และติดตั้งอุปกรณ์ VMS รุ่นที่ 2 จำนวน 500 ลำ

 

เปิด 4 บริษัทชิงเค้ก “ประมงคนละครึ่ง” ผวาสหรัฐขึ้นภาษีสูง-สัตว์น้ำทะลักไทย

 

ทั้งนี้บริษัทติดตั้ง VMS ที่กรมประมงรับรอง มี 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอทนีก้า (ประเทศไทย) จำกัด (บจก.) , บจก.เอ็กซ์เซ้นส์ อินฟอร์เมชั่น เซอร์วิส, บจก.นอติคอมม์ จำกัด และบจก.วันลิ้งค์ เทคโนโลยี่ ซึ่งเมื่อติดตั้งแล้ว ข้อมูลการเดินเรือตามกฎหมายนี้จะถูกส่งไปยังศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังและคาดการณ์สถานการณ์ด้านการประมง ในสังกัดกรมประมง โดยอัตโนมัติ

“โครงการนี้ ช่วยลดภาระต้นทุนให้กับชาวประมง มองว่ารัฐควรจะสนับสนุนทุกปี และค่าใช้จ่ายรายเดือนควรจะจ่ายเต็มราคา โดยประมงในต่างประเทศทุกประเทศรัฐบาลจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยช่วยให้การทำงานของกรมประมง สามารถนำไปวิเคราะห์ประกอบกับข้อมูลอื่นๆ เช่น สัตว์นํ้าที่จับได้ในสมุดบันทึกการทำการประมง (Fishing Log Book) ชนิดและปริมาณสัตว์นํ้าขึ้นท่าได้ เป็นต้น”

ส่วนที่รัฐบาลจะไปเจรจาการค้ากรณีสหรัฐอเมริกาจะเก็บภาษีตอบโต้สินค้าไทย 36% ทางสมาคมได้เสนอให้ประเทศไทยต้องใช้จุดแข็งของการแก้ไขปัญหา IUU ของไทย จนสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดสายการผลิต เป็นตัวอย่างในการตรวจสอบย้อนกลับสัตว์นํ้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ ตั้งแต่เรือประมงจนถึงผู้บริโภคในการป้องกันการสวมสิทธิ์สัตว์นํ้าจากต่างประเทศอย่างจริงจัง ซึ่งสินค้าสัตว์นํ้าจากต่างประเทศจะต้องปฏิบัติเช่นเดียวกันกับประมงไทย ถึงจะสามารถนำสัตว์นํ้าเข้ามาจำหน่ายในประเทศหรือมาแปรรูปเพื่อส่งออกได้

เปิด 4 บริษัทชิงเค้ก “ประมงคนละครึ่ง” ผวาสหรัฐขึ้นภาษีสูง-สัตว์น้ำทะลักไทย

อย่างไรก็ดีจากภาษีตอบโต้ที่สหรัฐจะเรียกเก็บจากแต่ละประเทศในอัตราที่แตกต่างกัน โดยไทยอาจถูกเรียกเก็บภาษี36% ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านถูกเรียกเก็บภาษีในอัตราสูง เช่น เวียดนาม 46%, อินโดนีเซีย 32% , เมียนมา 44% ,กัมพูชา 49% และ ลาว 48% รวมถึงจีนที่ถูกเรียกเก็บภาษีสูงขึ้นเช่นกัน โดยประเทศเหล่านี้ส่งออกสินค้าประมงไปสหรัฐฯจำนวนมาก หากถูกเก็บภาษีสูงอาจทำให้สินค้าทะลักเข้ามายังไทยมากขึ้น และอาจทำให้ราคาสินค้าประมงในประเทศตกตํ่า ดังนั้นรัฐบาลต้องหาวิธีป้องกันด้วย

 

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,092 วันที่ 1 - 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2568