นายธีระชัย แสนแก้ว ประธานคณะกรรมการเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง กยท.ระดับประเทศ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า วันนี้ (30 เม.ย.68) ทางคณะกรรมการเครือข่ายฯ และการยางแห่งประเทศไทย ในเรื่องมาตรการขอความร่วมมือเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางเลื่อนฤดูกาลเปิดกรีดยางออกไปอีก 1 เดือน โดยให้เกษตรกรเลื่อนการเปิดกรีดจากเดิมจะทำการเปิดเดือนพฤษภาคม 2568 โดยให้เริ่มทำการเปิดกรีดเดือนมิถุนายน 2568 ซึ่งจะทำให้ผลผลิตยางหายไปจากระบบตลาดโลกไม่ต่ำกว่า 3 แสนตัน หากมูลค่าผลผลิตยางพาราชนิดแผ่นรมควันชั้น 3 (ไม่อัดก้อน) กิโลกรัมละ 72.04 บาท (ข้อมูลจากการประกาศราคายางของฝ่ายเศรษฐกิจการยาง กยท. ณ วันที่ 3 เมษายน 2568) โดยคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 14,400 ล้านบาท ในช่วงเวลาดังกล่าวการลดลงของอุปทานนี้จะสร้างแรงกดดันต่อสมดุลของตลาด
ในระหว่างเลื่อนเปิดกรีดยาง เกษตรกรชาวสวนยางสามารถบำรุงรักษาต้นยางให้แข็งแรงสมบูรณ์ เตรียมพร้อมเก็บเกี่ยวผลผลิตเมื่อเปิดกรีด โดย กยท. จะสนับสนุนเงินกู้จากองทุนพัฒนายางพารา มาตรา 49 (3) แก่สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ผ่านโครงการสิบเชื่อระยะสั้น สำหรับสถาบันเกษตรกรกรเพื่อจัดหาปัจจัยการผลิตในการเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิตยางพารา (สถาบันฯ ละ 1 สัญญา)วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท/ 1 สัญญา โดยปลอดดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 4 เดือนโครงการสินเชื่อระยะสั้น สำหรับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางเพื่อจัดหาปัจจัยการผลิตฯ เริ่มต้งแต่เดือน พฤษภาคม เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังมีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการยางที่รับซื้อยางพารา ดังนี้
1.เสนอให้ผู้ประกอบกิจการยางรับซื้อผลผลิตยางพาราทุกประเภทจากสถาบันเกษตรกร ในราคาไม่ต่ำกว่าประกาศราคายางของฝ่ายเศรษฐกิจยาง กยท. ณ วันที่ 2 เมษายน 2568
2.ให้ กยท.ช่วยเหลือผู้ประกอบกิจการยางที่รับซื้อยางพาราโดยการช่วยหลือชดเชยอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ทั้งนี้จะต้องมีเงื่อนไขเป็นผู้ประกอบกิจการที่เข้าร่วมโครงการ
3.ให้ กยท. วางแผนซื้อโรงงานผลิตยางล้อเพื่อรองรับผลผลิตของเกษตรกรมาแปรรูป เพื่อดึงอุปทานผลผลิตยางออกจากตลาด และเป็นการยกระดับคุณภาพสินค้าผลิตภัณฑ์ยางพาราให้มีมาตรฐาน สร้างโอกาสทางธุรกิจและการตลาด ส่งเสริมให้มีแบรนด์สินค้ายางพาราเป็นของ กยท. รวมถึงเป็นการส่งเสริมการใช้ยางพาราภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น
4.เร่งรัดให้รัฐบาลอนุมัติการขยายระยะเวลาโครงการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อรวบรวมยาง 10,000 ล้านบาทให้ได้โดยเร็ว
5.ให้ กยท.ดำเนินการเจรจาผู้ประกอบการจากประเทศจีน ขับเคลื่อนในเรื่องการลดภาษีการนำเข้ายางพาราจากประเทศไทย ภายใต้ความร่วมมือสมาคมการค้าแลพัฒนาธุรกิจ 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขงกับ กยท.ในการพัฒนาธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถการค้าการลงทุนระหว่างประเทศจีนและประเทศไทย
อนึ่ง ประชุมคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 12/2567 มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อให้สถาบันฯ สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการดำเนินธุรกิจโดยสถาบันฯ ที่เข้าร่วมโครงการฯ จะสามารถขอกู้เงินฯ เพื่อนำไปซื้อปัจจัยการผลิตเพื่อจัดจำหน่ายให้กับสมาชิกและเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ช่วยให้เกษตรกรชาวสวนยางเข้าถึงปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ ราคาถูก นำไปสู่การเพิ่มผลผลิตยางและรายได้ในอนาคต ตอบสนองนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มุ่งยกระดับศักยภาพเกษตรกรชาวสวนยางและสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางให้มีความเข้มแข็ง