บิ๊กเอกชนมองบวก จีดีพีไทยปีนี้โตได้ 2.9% จี้รัฐหนุน “ปราจีนบุรี”เพิ่มพื้นที่ EEC

26 เม.ย. 2568 | 23:15 น.

บิ๊กเอกชนมองบวก จีดีพีไทยปี 68 ยังขยายตัวได้ 2.4-2.9% ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน ทั้งปัจจัยในและนอกประเทศ เสี่ยงสุดจากนโยบายการค้าที่แข็งกร้าวยุค “ทรัมป์ 2.0” จี้รัฐเพิ่ม “ปราจีนบุรี” เป็นพื้นที่ EEC ดูดลงทุนเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ

ปี 2568 เป็นอีกหนึ่งปีที่ภาคธุรกิจไทยต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงรอบด้าน ทั้งจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกประเทศ เฉพาะอย่างยิ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและประเทศคู่ค้าหลัก รวมถึงความผันผวนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ภายใต้นโยบายการค้าที่แข็งกร้าวของ “ทรัมป์ 2.0” ส่งผลต่อทิศทางการส่งออกของไทย

สนั่น  อังอุบลกุล ประธานอาวุโส หอการค้าไทย และประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานอาวุโส หอการค้าไทย และประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปี 2568 เป็นอีกหนึ่งปีที่เศรษฐกิจไทยยังต้องเดินหน้า “อย่างระมัดระวัง” ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ และแรงกดดันจากนโยบายการค้าของประเทศมหาอำนาจ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกาภายใต้รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์

แต่แม้จะมีแรงต้านในหลายด้าน กลไกเศรษฐกิจไทยยังคงมีเครื่องยนต์สำคัญ ที่สามารถขับเคลื่อนการเติบโตได้ต่อเนื่อง หากมีการสนับสนุนและวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมจากทั้งภาครัฐและเอกชนคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยายตัวในช่วง 2.4 – 2.9% ภายใต้แรงหนุนของปัจจัยบวกหลายประการได้แก่

1.ภาคการส่งออก ประเทศไทยต้องรุกอย่างมีเป้าหมาย แม้จะต้องเผชิญกับมาตรการภาษีนำเข้าใหม่จากสหรัฐฯ และความผันผวนของเศรษฐกิจโลก แต่ยังเชื่อมั่นว่าการส่งออกไทยยังมีโอกาสเติบโตได้ หากภาคเอกชนสามารถปรับกลยุทธ์ได้อย่างทันเวลา โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากความตกลงทางการค้าเสรี (FTA) ที่มีอยู่ และการขยายตลาดไปยังประเทศใหม่ที่มีศักยภาพ เช่น อินเดีย เวียดนาม และซาอุดีอาระเบีย เพื่อลดการพึ่งพาตลาดหลักอย่างจีนและสหรัฐฯ

 2.โอกาสที่ต้องคว้าไว้คือการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) จะเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญของปีนี้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ เช่น ดิจิทัล โลจิสติกส์ อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งหอการค้าไทยได้เสนอให้รัฐบาลพิจารณาเพิ่มพื้นที่ EEC ในจังหวัดปราจีนบุรีเพื่อขยายฐานการลงทุน ซึ่งหากได้รับการสนับสนุน ก็จะสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญให้กับภูมิภาคและเศรษฐกิจในภาพรวม

บิ๊กเอกชนมองบวก จีดีพีไทยปีนี้โตได้ 2.9% จี้รัฐหนุน “ปราจีนบุรี”เพิ่มพื้นที่ EEC

 3. ภาคการท่องเที่ยว ยังมีแรงขับเคลื่อนที่ชัดเจนและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยถึง 39-40 ล้านคน 

4. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐต่อเนื่อง และมุ่งเน้นมาตรการที่เกิดผลเป็นรูปธรรมของรัฐบาล

“แม้เศรษฐกิจไทยปี 2568 อาจจะไม่ได้เติบโตในอัตราสูง แต่ก็ยังสามารถรักษาทิศทางบวกไว้ได้ หากสามารถดึงพลังจากเครื่องยนต์หลักย่างการท่องเที่ยว การส่งออก และการลงทุน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภาครัฐต้องเร่งสร้างเสถียรภาพ สื่อสารเชิงนโยบายอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ภาคเอกชนต้องเร่งปรับตัว ใช้เทคโนโลยี และขยายตลาดอย่างฉับไว เพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายของการลงทุน และรักษาความสามารถในการแข่งขันในเวทีเศรษฐกิจโลกต่อไป” นายสนั่น กล่าว