นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้มีการดำเนินการตรวจสอบนิติบุคคลที่เข้าข่ายใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง หรือ นอมินี เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาธุรกิจอำพรางของคนต่างด้าว ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเศรษฐกิจประเทศรวม
ล่าสุดในปี 2568 กรมฯ ได้ปรับแผนตรวจสอบนอมินี โดยจะเน้น 6 กลุ่มธุรกิจเป้าหมายที่น่าสงสัยว่าต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยโดยให้คนไทยถือหุ้นแทน ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย
โดยจะมีตรวจสอบทั้งหมด 46,918 ราย เบื้องต้นเป็นนิติบุคคลที่มีต่างชาติร่วมทุน สัดส่วน 0.09-49.99% ทั้งนี้จะมีการลงพื้นที่ร่วมกับคณะทำงานฯ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ปัจจุบันการดำเนินการปราบปรามผู้กระทำผิดนอมินีที่หน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมกันดำเนินการ ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2567 - 31 มีนาคม 2568 รวม 852 ราย มูลค่าความเสียหาย 15,188 ล้านบาท นะคะ
นางอรมน กล่าวต่อว่า ในแผนการตรวจสอบนอมินีในครั้งนี้ เป็นการตรวจสอบธุรกิจที่มีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามายังกรมฯ และธุรกิจที่เป็นกระแสข่าวในปัจจุบันว่าพบกลุ่มคนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจโดยผิดกฎหมายอาศัยนอมินีคนไทยด้วย เช่น ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์แถวพระราม 9 และ กรุงเทพกรีฑา ร้านอาหารย่านห้วยขวาง พระราม 9 และรัชดาภิเษก การตรวจสอบกรณีการถือครองที่ดินเพื่อการเกษตรในพื้นที่จังหวัดระยองและจันทบุรีเป็นต้น
ทั้งนี้ การปรับแผนลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจที่ต้องสงสัยหรืออาจเข้าข่ายนอมินี จะสอดคล้องและควบคู่ไปกับการทำงานของคณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ที่มีร้อยตรีจักรา ยอดมณีรองปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน โดยจะบูรณาการการทำงานเชิงรุกร่วมกัน และเร่งดำเนินงานตามกรอบการปฏิบัติงานที่ได้กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงาน ปปง. ได้ร่วมกันพิจารณายกร่างกฎหมายว่าด้วย การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสร็จแล้ว โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเพิ่มเติมให้คนไทยที่ให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าว หรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในธุรกิจที่อยู่ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือคนต่างด้าวที่ยอมให้คนไทย กระทำการแทนดังกล่าว ตามมาตรา 36 (ความผิดฐานนอมินี)
กรณีที่คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 37 เป็นความผิดมูลฐาน ตามร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งจะนำไปสู่การยึด อายัดทรัพย์สินของผู้กระทำความผิดทั้งที่เป็นคนไทยและคนต่างด้าวให้ตกเป็นของแผ่นดิน
ขณะนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการรับฟังความคิดเห็นในเว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย เพื่อสนับสนุนร่างกฎหมายดังกล่าว และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการปกป้องธุรกิจของคนไทยให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้ และเติบโตอย่างยั่งยืน
รวมทั้งส่งเสริมให้คนต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเมื่อสิ้นสุดการรับฟังความคิดเห็นแล้ว สำนักงาน ปปง. จะพิจารณาเสนอร่างกฎหมาย ดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีให้พิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบลำดับถัดไป