‘กรมรางฯ’ สั่งคุมเข้ม รถไฟฟ้า กทม.-ปริมณฑล หลังสถิติขัดข้อง พุ่ง 24 ครั้ง ใน 2 เดือน

23 ธ.ค. 2568 | 05:54 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ธ.ค. 2568 | 06:01 น.

กรมการขนส่งทางราง จับมือผู้ให้บริการระบบรางในการติดตามแก้ไขปัญหาเหตุขัดข้องของรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และเตรียมพร้อมรับมือการเดินทางช่วง Countdown ปีใหม่ 2569 พร้อมผลักดันประชาชนใช้ระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทาง

KEY

POINTS

  • กรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยสถิติรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เกิดเหตุขัดข้อง 24 ครั้ง ในช่วง 2 เดือน (ตุลาคม - พฤศจิกายน 2568)
  • สาเหตุหลักของความขัดข้องมาจากระบบขับเคลื่อน จุดสับราง และระบบอาณัติสัญญาณ
  • กรมรางฯ ได้สั่งการให้ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าเพิ่มมาตรการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ให้เข้มงวดขึ้น เพื่อลดจำนวนเหตุขัดข้อง

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับและบริหารจัดการระบบขนส่งทางราง ครั้งที่ 5/2568 ร่วมกับหน่วยงานผู้ให้บริการระบบรางที่เกี่ยวข้อง 

ทั้งนี้ที่ประชุมฯ ได้มีการติดตามประเด็นต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อประชาชนและผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางราง และกำหนดแนวทางการปรับปรุงและแก้ไขปัญหา รวมทั้งการเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม Countdown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 

‘กรมรางฯ’ สั่งคุมเข้ม รถไฟฟ้า กทม.-ปริมณฑล หลังสถิติขัดข้อง พุ่ง 24 ครั้ง ใน 2 เดือน

สำหรับสถิติเหตุขัดข้องของรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ช่วงเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน 2568 รวม 24 ครั้ง ประกอบด้วย ระบบขับเคลื่อน 6 ครั้ง ระบบเบรค 1 ครั้ง ระบบประตูรถ 1 ครั้ง ระบบจ่ายไฟฟ้า 2 ครั้ง จุดสับราง 5 ครั้ง เครื่องนับเพลา 2 ครั้ง ระบบอาณัติสัญญาณ 3 ครั้ง ปัจจัยภายนอก 2 ครั้ง ATP 1 ครั้ง และเหตุอื่น ๆ 1 ครั้ง 

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้เสนอแนะผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบและบำรุงรักษาอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับสภาพการใช้งาน และร่วมกันกำหนดแนวทางการป้องกัน เพื่อลดจำนวนเหตุรถไฟฟ้าขัดข้องต่อไป 

ขณะเดียวกันที่ประชุมฯ ได้รับทราบการติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาเหตุขัดข้องของรถไฟฟ้าโมโนเรล โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี กรณีเกิดเหตุล้อประคองรถไฟฟ้าโมโนเรลหลุดร่วง 

อย่างไรก็ดีการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ร่วมกับบริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) และบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ได้ดำเนินการเปลี่ยนล้อประคองของรถไฟฟ้าสายทั้ง 2 สายแล้ว ได้แก่ สายสีชมพู 11 ขบวน และสายสีเหลือง 11 ขบวน 

ส่วนความคืบหน้าการดำเนินการกรณีรางนำไฟฟ้า (conductor rail) หลุดร่วง โดยเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบ ติดตั้งอุปกรณ์ลดแรงกระแทกของขารับกระแสไฟฟ้ากับปลายรางจ่ายกระแสไฟฟ้า และติดตั้งอุปกรณ์ยึดรางจ่ายไฟฟ้าทุกระยะ 60 เมตร เพื่อจำกัดระยะความเสียหายของรางจ่ายกระแสไฟฟ้า ซึ่งผู้ให้บริการได้ติดตั้ง conductor rail เพื่อเปิดให้บริการเดินรถเต็มรูปแบบแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ที่ประชุมฯ รับทราบมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เรื่อง การดำเนินมาตรการบัตรโดยสารเหมาจ่ายรายวัน สำหรับรถไฟชานเมืองสายสีแดง สายนครวิถี (กรุงเทพอภิวัฒน์ - ตลิ่งชัน) และสายธานีรัถยา (กรุงเทพอภิวัฒน์ - รังสิต) ของการรถไฟแห่งประเทศไทย และรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวจะเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้บริการระบบราง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เท่าเทียมกันในการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ โดยมีกรอบระยะเวลาดำเนินมาตรการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 - 30 พฤศจิกายน 2569

จากการดำเนินมาตรการดังกล่าว พบว่า ปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บัตร EMV เฉลี่ยต่อวัน เพิ่มขึ้น 10,377 คน-เที่ยว/วัน จากเดิม 14,085 คน-เที่ยว/วัน เป็น 24,462 คน-เที่ยว/วัน หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น ร้อยละ 73.68 (เปรียบเทียบข้อมูลระหว่างวันที่ 1 - 31 ธันวาคม 2567 กับข้อมูลระหว่างวันที่ 1 - 15 ธันวาคม 2568)

‘กรมรางฯ’ สั่งคุมเข้ม รถไฟฟ้า กทม.-ปริมณฑล หลังสถิติขัดข้อง พุ่ง 24 ครั้ง ใน 2 เดือน

นอกจากนี้ที่ประชุมฯ ได้มีการหารือเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนเข้าร่วมกิจกรรม Countdown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2568 - 1 มกราคม 2569 ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมากบริเวณสถานีที่อยู่ใกล้เคียงสถานที่จัดกิจกรรม Countdown ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568

อาทิ รถไฟฟ้าบีทีเอส ที่สถานีสยาม (CEN) สถานีชิดลม (E1) สถานีพร้อมพงษ์ (E5) สถานีสะพานตากสิน (S6) และสถานีกรุงธนบุรี (S7) รถไฟฟ้าสายสีทองที่สถานีเจริญนคร (G2) และสถานีกรุงธนบุรี (G1) รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีลุมพินี (BL25) รวมถึงสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสองสายทาง (Interchange station) และสถานที่จอดรถ Park and Ride

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้หารือแนวทางการบริหารจัดการความหนาแน่นของผู้โดยสาร และอำนวยความสะดวกและปลอดภัยภายในสถานีรถไฟฟ้าในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยให้หน่วยงานผู้ให้บริการจัดเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ 

นอกจากนี้ยังเพิ่มจุดขายบัตรโดยสารเพิ่มเติม การปรับทิศทางประตูจัดเก็บค่าโดยสารให้สอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสาร รวมทั้งการบริหารจัดการผู้โดยสารโดยทำ Crowd Control ที่สถานี เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร ควบคู่กับเพิ่มความถี่ของขบวนรถไฟฟ้าในช่วงเวลาที่มีผู้โดยสารหนาแน่น 

โดยในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 รถไฟฟ้าทุกเส้นทางขยายเวลาการให้บริการจนถึงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2569 นอกจากนี้ ที่ประชุมมอบหมายให้หน่วยงานผู้ให้บริการรถไฟฟ้า ประสานงานกับผู้จัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 เพื่อประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับจุดจอดรถบริเวณสถานีรถไฟฟ้า 

‘กรมรางฯ’ สั่งคุมเข้ม รถไฟฟ้า กทม.-ปริมณฑล หลังสถิติขัดข้อง พุ่ง 24 ครั้ง ใน 2 เดือน

อย่างไรก็ดีขอความร่วมมือผู้ให้บริการ ยกเว้นค่าบริการจอดรถอาคารและลานจอดแล้วจรของสถานีรถไฟฟ้า ระหว่างวันที่ 31 ธันวาคม 2568 - 1 มกราคม 2569 เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งทางราง ซึ่งที่ประชุม ขอความร่วมมือผู้ให้บริการระบบรางดำเนินการบริหารจัดการผู้โดยสารและการเดินรถตามแผนงานและแนวทางที่ได้หารือร่วมกันต่อไป 

ทั้งนี้ ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ขร. จะลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินงานตามมาตรการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ต่อไป