'กทพ.' ยัน 3 ข้อเหมาะสม ดัน 'ทางด่วนเกษตรฯ' คาดศึกษาจบ 2 ปี

15 ธ.ค. 2568 | 09:12 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ธ.ค. 2568 | 09:18 น.

'กทพ.' เปิด 3 เหตุผล สร้าง 'ทางด่วนเกษตรฯ' แจงพรรคประชาชน ปมกระแสค้านเก็บค่าทางด่วน 30 บาท เตรียมศึกษาแนวทางทุกรูปแบบ คาดใช้เวลา 2 ปีได้ข้อสรุป ฟากคมนาคมหั่นสร้างอุโมงค์ข้ามแยกเกษตรฯ พุ่ง 5 หมื่นล้านบาท กระทบงบประมาณรัฐ

KEY

POINTS

  • กทพ. ชี้แจง 3 เหตุผลความจำเป็นในการก่อสร้างทางด่วนเกษตรฯ เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายทางด่วนฝั่งตะวันตกและตะวันออก
  • โครงการอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในทุกรูปแบบ ทั้งทางยกระดับและอุโมงค์ คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาแล้วเสร็จใน 1.5-2 ปี
  • มติคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) สั่งให้ กทพ. ศึกษาโครงการเพิ่มเติม โดยยังไม่ได้กำหนดรูปแบบการก่อสร้างหรือประเด็นการเก็บค่าผ่านทาง

นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า ภายหลังสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชนเข้าพบเพื่อหารือถึงแนวทางการเชื่อมต่อโครงข่ายทางด่วนตะวันออก-ตะวันตก (ถนนงามวงศ์วาน-ถนนประเสริฐมนูกิจ) ที่มีกระแสข่าวก่อนหน้านี้ถึงการเก็บค่าผ่านทาง 30 บาทนั้น

'กทพ.' ยัน 3 ข้อเหมาะสม ดัน 'ทางด่วนเกษตรฯ' คาดศึกษาจบ 2 ปี

ทั้งนี้กทพ.ได้มีการหารือในวันนี้ โดยให้เหตุผลถึงความจำเป็นในการก่อสร้างโครงการดังกล่าว 3 ประเด็น ดังนี้ 1.เส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่จำเป็นต้องเชื่อมต่อโครงข่ายทางด่วนตะวันตกและตะวันออก

2.กทพ.พยายามนำแนวทางทุกรูปแบบทั้งแนวทางที่มีการศึกษาเดิมในรูปแบบทางยกระดับร่วมกับถนนระดับดิน ตลอดจนแนวทางที่มีการศึกษาใหม่หรืออุโมงค์ข้ามแยกเกษตรฯ

'กทพ.' ยัน 3 ข้อเหมาะสม ดัน 'ทางด่วนเกษตรฯ' คาดศึกษาจบ 2 ปี

3.ผลมติคจร. ได้มอบหมายให้กทพ.ไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการฯนี้ คาดว่าใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง-2 ปี โดยมติคจร.ไม่ได้มีการระบุว่าโครงการจะดำเนินการในแนวทางไหนหรือต้องเก็บค่าผ่านทางเพียงแต่ให้มีการศึกษาก่อน

ที่ผ่านมานายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ทางด่วนสายนี้เพื่อแก้ปัญหาและลดความแออัดบริเวณดังกล่าว ซึ่งจะต้องมีการศึกษา หากผลออกมาเป็นอย่างไรจะต้องนำมาหารือกันก่อน

"ผมมองว่าอุโมงค์ข้ามแยกเกษตรฯ เป็นถนนสาธาณะไม่ควรไปทำเป็นเก็บเงิน ส่วนแนวทางก่อสร้างทางด่วนเป็นอุโมงค์ใต้ดินนั้นมองว่าค่าก่อสร้างสูงมากจาก 1.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มเป็นกว่า 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มหลายเท่าตัว กับในสภาวะปัจจุบันที่งบประมาณมีจำกัด" นายพิพัฒน์ กล่าว