นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าพรรคไทยก้าวใหม่ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ไม่กล้าคิด กทม. จะรถติด "วินาศสันตะโร" ชาวบ้านเดือดร้อนสุดๆ เมื่อ "คมนาคม" จะยึดอุโมงค์เกษตร-ถนนงามวงศ์วาน "ทำทางด่วน"
เราทุกคนตกใจมาก เมื่อทราบข่าว "รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม" ประธานที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) มีมติอนุมัติให้ใช้ "ถนนงามวงศ์วาน ตั้งแต่แยกม.เกษตร-สะพานพงษ์เพชร" เปลี่ยนเป็น "ทางด่วน"
"พรรคไทยก้าวใหม่" ขอคัดค้าน หากรัฐจะยึด "ถนนสาธารณะ" ซึ่งเป็นที่สัญจรของประชาชน มาทำทางด่วน เพราะจะสร้างปัญหามากมาย ไม่รู้ท่านรัฐมนตรี ได้ดูเอกสารการประชุมละเอียดหรือไม่ หรือเคยผ่านมาดู "สภาพปัญหา" หรือไม่ ถึงได้อนุมัติโครงการ ที่ชาวบ้านจะเดือดร้อนแสนสาหัสแบบนี้
1. "ถนนหายไปครึ่งหนึ่ง รถติดหลายเท่า"
"ถนนงามวงศ์วาน" ตั้งแต่แยกเกษตร จนถึง สะพานพงษ์เพชร "รถติดหนัก" ทุกวันอยู่แล้ว เพราะเป็นถนนหลักที่ประชาชนใช้สัญจร ไปสถานที่สำคัญทั้งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตลาด โรงพยาบาล สถานที่ราชการสำคัญหลายแห่ง หมู่บ้าน และชุมชนมากมาย
ดังนั้น การยึด "ถนนงามวงศ์วาน" ไป 4 ช่องทางจราจร เพื่อใช้เป็น "ทางด่วน" ทำให้เหลือถนนใช้งานเพียงฝั่งละ 2 ช่องทางแคบๆ จะทำให้ "รถติดสาหัส" ไม่ใช่แค่ ตลอดเส้นถนนงามวงศ์วาน ติดยาวถึงนนทบุรี แต่จะติดสะสมบนถนนเกษตร-นวมินทร์ และถนนพหลโยธิน
ไม่กล้าจินตนาการว่า ชาวบ้านจะเดือดร้อน สาหัสหนักมากแค่ไหน จากการที่เหลือพื้นที่จราจรเพียงแค่ "ครึ่งเดียว" รถจะติดหลายเท่า จนรถแทบขยับไม่ได้
2. "เสี่ยงอุบัติเหตุ ถึงชีวิต"
"อุโมงค์ลอดแยกเกษตร" ที่ประชาชนใช้สัญจร จะถูกยึดมาเป็น "ทางด่วน" ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นทางลอดปกติ รถวิ่งไม่เร็ว แต่หากมาใช้เป็นทางด่วน รถจะวิ่งเร็วมาก เสี่ยงอุบัติเหตุ ถึงชีวิต
ทั้งช่องทางจราจรจะถูกเบียดจาก 6 ช่องทางเหลือเพียง 4 ช่องทาง ยิ่งเสี่ยงอุบัติเหตุมากชึ้นเช่นกัน
ดังนั้นตามหลัก "วิศวกรรมจราจร" และ "วิศวกรรมความปลอดภัย" จึงถือว่าการยึดทางลอดแยกเกษตร และถนนงามวงศ์วาน ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
3. "มีทางเลือกอื่น ที่ดีกว่า"
หากท่านเห็น "เสาตอม่อ" นับร้อยต้น กลางถนนเกษตร-นวมินทร์ นั่นคือ "เสาทางด่วนขั้นที่ 3" มาจากวงแหวนรอบนอก เชื่อมตะวันออก-ตะวันตก
เสาตอม่อ ทำค้างไว้นับสิบปี ไม่ทำอะไรต่อ โดยครั้งแรกมีความตั้งใจสร้าง "สะพานยกระดับ" แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน โดยเฉพาะช่วงสี่แยกเกษตร ถนนงามวงศ์วาน
เพราะมันจะเป็น "สะพานยักษ์" ที่ใหญ่โตมาก และสูงมาก ต้องสร้างข้ามรถไฟฟ้าสายสีเขียว ข้ามทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ ข้ามรถไฟฟ้าสายสีแดง และต้องสร้างตอม้อยักษ์ กลางถนนงามวงศ์วานอีก ทำให้เสียช่องทางจราจร รถติดหนัก
ดังนั้น การทางพิเศษจึงมีแนวคิด เปลี่ยนเป็น "อุโมงค์ทางด่วนใต้ดิน" ไม่ต้องมีปัญหากับชาวบ้าน และไม่ต้องเสียช่องทางจราจร ทั้งดูแลเรื่องความปลอดภัยได้ตามมาตรฐานวิศวกรรมจราจร
เราเชื่อว่า "การก่อสร้างอุโมงค์ทางด่วน" เหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์นี้ ไม่รู้เหตุผลว่า ทำไมถึงไม่คงการก่อสร้างอุโมงค์ไว้ดังแผน แทนที่จะเปลี่ยนมายึดถนนงามวงศ์วานเป็นทางด่วน แบบไม่ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม
"พรรคไทยก้าวใหม่" ขออาสาเป็นตัวแทนประชาชนคนกรุงเทพ "คัดค้าน" การยึดถนนงามวงศ์วาน ใช่เป็นทางด่วน และจะติดตามโครงการนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ประชาชนเสียประโยชน์
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) สถาบันการศึกษาหลักในแนวเส้นทาง และเครือข่ายชุมชน ม. เกษตรศาสตร์ แสดงพลังคัดค้านผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ข่าวชุมชนม. เกษตรศาสตร์อย่างต่อเนื่อง ด้วยจุดยืนถ้าจะสร้างทางด่วนต้องมุดดินเท่านั้น และขอให้เร่งรัดโครงการรถไฟฟ้าสีน้ำตาล(แคราย-มีนบุรี) แทน
ต่อเนื่องนี้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมแสดงความคิดเห็นหลากหลาย มีทั้งสนับสนุน ม.เกษตรฯ ที่เป็นกังวลผลกระทบด้านการจราจร จากการเพิ่มปริมาณรถ และปัญหามลพิษ
โดยขอให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลช่วงแคราย-มีนบุรีแทนการสร้างทางด่วนเพิ่มปริมาณรถส่วนตัว
แต่ก็มีประชาชนบางส่วนก็ต่อว่า มก.เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ เพราะคัดค้านการก่อสร้างทางด่วนยกระดับบนถนนงามวงศ์วานมากว่า 30 ปี ต้องปรับแบบหลายรอบ ทั้งสร้างอุโมงค์ใต้ถนนงามวงศ์วานแต่ค่าก่อสร้างแพงกว่า 5 หมื่นล้าน จนล้มโครงการ
ด้านนายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย(กทพ.) กล่าวว่ากพท. เตรียมศึกษาความเหมาะสมแนวเส้นทางและออกแบบใหม่ตามมติที่ประชุมคจร. คาดว่าจะเริ่มศึกษาความเหมาะสมฯ และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) ช่วงต้นปี 2569 ใช้เวลาประมาณ 18 เดือน แล้วเสร็จประมาณเดือน มิ.ย.2570 เพื่อสรุปผลนำเสนอคจร.และคณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาต่อไป