หนึ่งในโครงการขนาดใหญ่ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ที่เร่งผลักดัน โดยเฉพาะ “โครงการทางด่วนขั้นที่ 3” ซึ่งเป็นโครงข่ายทางพิเศษขนาดใหญ่ที่ถูกวางแผนมาเพื่อเชื่อมโยงพื้นที่กรุงเทพฯ ด้านตะวันตก-ด้านตะวันออก ตลอดจนเชื่อมต่อกรุงเทพฯ ตอนเหนือเข้าด้วยกัน เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดในเขตเมืองและรองรับการขยายตัวของเมืองในอนาคต
แหล่งข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ความคืบหน้าโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ส่วนทดแทนตอน N1 ช่วงศรีรัช-ถนนประเสริฐมนูกิจ ระยะทาง 6.7 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 5 หมื่นล้านบาท
ที่ผ่านมาจากผลการศึกษามีการออกแบบการก่อสร้างในรูปแบบอุโมงค์ใต้ดิน ซึ่งขณะนี้ยังมีประเด็นในเรื่องการเวนคืนที่ดิน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนจากทางยกระดับเป็นอุโมงค์ใต้ดิน เนื่องจากเป็นบริเวณที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่
“ประชาชนในพื้นที่มีข้อกังวลถึงประเด็นการเวนคืนที่ดินข้างต้น เบื้องต้นได้เสนอแนะให้กทพ.ใช้แนวทางเลือกอื่นเพื่อลดผลกระทบจากการเวนคืนที่ดิน โดยกระทรวงคมนาคมได้เข้ามาช่วยพิจารณาในเรื่องนี้ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะใช้รูปแบบการก่อสร้างแบบใด” แหล่งข่าวจากกทพ.กล่าว
ส่วนการพิจารณารูปแบบโครงการจะได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อไรนั้น เรื่องนี้มีรายละเอียดค่อนข้างมากและเป็นที่อ่อนไหว ซึ่งกทพ.จะต้องหารือกับกรมทางหลวง (ทล.) เพื่อขอใช้พื้นที่ด้วย รวมทั้งการปรับรูปแบบจะใช้เวลานาน หากเป็นการใช้รูปแบบทางยกระดับจะทำให้ค่าก่อสร้างถูกลงกว่าเดิม คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
“ปัจจุบันส่วนทดแทน N1 ยังไม่ได้จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เนื่องจากต้องรอสรุปรูปแบบของโครงการก่อนว่าจะเป็นอย่างไร โดยทั้ง 2 โครงการ กทพ.จะเป็นผู้รับผิดค่างานก่อสร้างงานโยธาเองเหมือนโครงการทางด่วนพะราม 3 และโครงการทางด่วนฉลองรัช ช่วงจตุโชติ-ลำลูกกา” แหล่งข่าวจากกทพ.กล่าว
สำหรับโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ส่วนทดแทนตอน N1 มีแนวเส้นทางเริ่มต้นที่จุดตัดระหว่างทางพิเศษศรีรัช ถนนงามวงศ์วาน มุ่งหน้าตามแนวถนนงามวงศ์วาน ลอดผ่านแยกพงษ์เพชร ถนนวิภาวดีรังสิต แยกเกษตร วิ่งเข้าถนนประเสริฐมนูกิจ จนเชื่อมต่อกับโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ส่วนทดแทนตอน N2
ขณะที่ความคืบหน้าโครงการโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ส่วนทดแทนตอน N2 ช่วงฉลองรัช-ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันออก ระยะทาง11.3 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 16,960 ล้านบาท
ที่ผ่านมาคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ด สศช.) ได้เห็นชอบหลักการของโครงการฯแล้ว แต่ยังตั้งข้อสังเกตหลายประเด็น
แหล่งข่าวจากกทพ.กล่าวว่า กทพ.อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับกระทรวงคมนาคมเพื่อจัดทำข้อมูลเพิ่มเติมตามข้อสังเกตของบอร์ด สศช.ในหลายประเด็น เช่น แนวทางความชัดเจนส่วนทดแทนตอน N1 ความแข็งแรงของตอม่อเดิมที่ทิ้งร้าง รวมถึงระบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจะใช้รูปแบบใด
“โครงการนี้จะมีการใช้ตอม่อเดิมหรือไม่นั้น จากที่กทพ.ได้ตรวจสอบพบว่าตอม่อเดิมยังมีความแข็งแรงและทนทาน แต่เพื่อความมั่นใจในการก่อสร้าง เบื้องต้นกทพ.จะหาผู้เชี่ยวชาญมาทดสอบตอม่อว่าสามารถรองรับสิ่งก่อสร้างที่อยู่ด้านบนตามผลการศึกษาที่มีการออกแบบได้หรือไม่ คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภาย 1-2 เดือน” แหล่งข่าวจาก กทพ.กล่าว
ทั้งนี้หากกทพ.จัดทำข้อมูลแล้วเสร็จ ตามแผนจะเสนอต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณา จากนั้นจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในเดือนกรกฎาคมนี้และจะเริ่มเปิดประมูลได้ภายในกันยายน 2568 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ภายในต้นปี 2569 ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี ซึ่งจะเปิดให้บริการต้นปี 2572
อย่างไรก็ดีโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 ส่วนทดแทนตอน N2 ไม่มีการเวนคืนที่ดิน อีกทั้งรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) แล้ว
สำหรับโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 ส่วนทดแทนตอน N2 มีแนวเส้นทางเริ่มต้นจากทางแยกต่างระดับฉลองรัช (บริเวณถนนประเสริฐมนูกิจ) วิ่งยกระดับไปตามแนวถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร-นวมินทร์)
ตัดผ่านแยกลาดปลาเค้า, แยกเสนานิคม, แยกสุคนธสวัสดิ์, และไปสิ้นสุดที่ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันออก (ถนนกาญจนาภิเษก) บริเวณทางแยกต่างระดับลาดบัวขาว
เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,113 วันที่ 13 - 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568