นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า วันนี้ (3 ธันวาคม 2568) รฟม.ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมก่อนเปิดให้บริการเดินรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ก่อนหน้านี้มีการปิดให้บริการ 5 สถานีตั้งแต่ช่วงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี - สถานีกรมชลประทาน เนื่องจากระบบรางจ่ายรถไฟฟ้า (Conductor rail) ขัดข้องตั้งแต่วันที่ 13-21 กันยายน 2568
ทั้งนี้จากการตรวจสอบทุกจุดไม่พบปัญหาและสามารถกลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ ปัจจุบันได้เปิดให้บริการวันนี้ตั้งแต่ 16.00 น.เป็นต้นไป
โดยไม่เก็บค่าโดยสาร 5 สถานีที่ปิดให้บริการ และจะเริ่มเก็บค่าโดยสารตามปกติทั้ง 5 สถานีอีกครั้งในวันที่ 5 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป
นายวิทยา กล่าวต่อว่า ในระหว่าง 5 สถานีที่ติดปัญหาระบบขัดข้องจนปิดให้บริการนั้น เบื้องต้นทางรฟม.และหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบแผงสวิตช์ระบบรถไฟฟ้าทั้งสายสีชมพูและสายสีเหลืองทุกจุด เนื่องจากเป็นระบบเดียวกัน พบว่ามีปัญหาเพียงจุดเดียวที่ทำให้เกิดระบบขัดข้อง คือ ระบบรางจ่ายรถไฟฟ้า (Conductor rail)
ที่ผ่านมาบริษัทนอร์ทเทิร์นบางกอก โมโนเรล จำกัด (NBM) เอกชนผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เบื้องต้นทางเอกชนผู้รับสัมปทานได้มีการสั่งอะไหล่และอุปกรณ์นำเข้าจากต่างประเทศ ระยะทาง 3 กิโลเมตร (กม.)
และมีอะไหล่และอุปกรณ์สำรองดังกล่าวอีก 1 กิโลเมตร (กม.) เพื่อนำมาเปลี่ยนแผงสวิตซ์ในการเชื่อมต่อระบบรางจ่ายไฟ
นอกจากนี้ยังมีการออกแบบอุปกรณ์ยึดรางเพิ่มเติมเพื่อจำกัดความเสียหายของรางจ่ายไฟให้สามารถซ่อมแซมกลับมาได้โดยเร็ว ทำให้ใช้ระยะเวลาดำเนินการนานกว่าปกติ
"หลังจากนี้แผนระยะยาวเพื่อป้องกันการเกิดปัญหาดังกล่าว รฟม.จะมีการตรวจสอบระบบรถไฟฟ้าทุกๆ 15 วันจากเดิมที่มีการตรวจสอบระบบรถไฟฟ้าทุกๆ 30 วัน และปรับปรุงระบบทุกๆจุดให้ครบ 100% โดยยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในลักษณะนี้อีก เพราะได้มีการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่และมีการทดสอบระบบเดินรถแล้ว" นายวิทยา กล่าว
นายพิเชฐ คุณาธรรรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) กล่าวว่า สาเหตุที่มีการปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูทั้ง 5 สถานี เนื่องจากในช่วงวันเกิดเหตุเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2568 บริเวณจุดแผงสวิตช์ระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นรอยต่อของระบบรางจ่ายไฟเกิดไม่สัมพันธ์กัน ส่งผลให้ขารับไฟของขบวนรถไฟและรางจ่ายไฟฟ้าเหลื่อมกัน ทำให้อะไหล่มีการหล่นลงมาจนไม่สามารถเดินรถได้
ขณะเดียวกันจากเหตุดังกล่าวเบื้องต้นทางผู้รับสัมปทานเร่งดำเนินการแก้ปัญหาทันที โดยการสั่งอุปกรณ์และอะไหล่ที่นำเข้าจากต่างประเทศมีค่าเสียหายจากการซ่อมแซมประมาณ 200 ล้านบาทในระยะทาง 3 กิโลเมตร ซึ่งทางบริษัทประกันเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากยังอยู่ในเงื่อนไขการรับประกัน
อย่างไรก็ดีหลังจากกลับมาเปิดให้บริการตามปกติ โดยผู้โดยสามารถใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพูได้ตลอดเส้นทางโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถเหมือนในช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งจะเปิดให้บริการครบทั้ง 24 ขบวน และเพิ่มความถี่การให้บริการเดินรถในชั่วโมงเร่งด่วนทุกๆ 5 นาทีและชั่วโมงที่ไม่เร่งด่วนทุกๆ 10 นาที โดยวิ่งความเร็วในอัตรา 40 กิโลเมตร (กม.)ต่อชั่วโมง
สำหรับปริมาณผู้โดยสารที่ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี เฉลี่ย 80,000 คนต่อวัน ทั้งนี้ในช่วงที่มีการปิดให้บริการทั้ง 5 สถานีส่งผลให้ปริมาณผู้โดยสารลดลง 5% หรือประมาณ 76,000 คนต่อวัน
ขณะที่ช่วงส่วนต่อขยายเชื่อมเมืองทองธานี มีปริมาณผู้โดยสารเฉลี่ยในวันธรรมดาประมาณ 3,000-4,000 คนต่อวัน และในวันเสาร์-อาทิตย์เฉลี่ยอยู่ที่ 10,000 คนต่อวัน โดยในช่วงวันหยุดเทศกาลต่างๆมีปริมาณผู้โดยสารสูงถึง 80,000 คนต่อวัน