'บีทีเอส' เฮ กทม.ลุยปิดหนี้ 'รถไฟฟ้าส่วนต่ขยายสายสีเขียว 3.6 หมื่นล้าน

30 ต.ค. 2568 | 10:13 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ต.ค. 2568 | 10:20 น.

'บีทีเอส' ส่งสัญญาณดี หลังกทม.จ่ายหนี้ค่าจ้างเดินรถ ส่วนต่อขยายสายสีเขียว 3.6 หมื่นล้าน เตรียมใช้หนี้ต่อ 1.5 หมื่นล้าน เผยลงนาม MOU ร่วมกัน ปิดช่องผิดนัดชำระหนี้

KEY

POINTS

  • กทม. ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายให้แก่บีทีเอส เป็นจำนวนเงิน 36,444 ล้านบาท
  • บีทีเอสเตรียมนำเงินที่ได้รับไปชำระหนี้สินของบริษัท 1.5 หมื่นล้านบาท และลงทุนในระบบรถไฟฟ้าเพิ่มเติมอีก 2 หมื่นล้านบาท
  • มีการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่าง กทม. และบีทีเอส เพื่อป้องกันปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ในอนาคต

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการชำระหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) วันนี้ (30 ต.ค.2568) ทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้จ่ายหนี้ค่าจ้างเดินรถระบบ O&M ส่วนต่อขยายที่ 1 สายสุขุมวิท ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และสายสีลม ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-คูคต ให้แก่บริษัท จำนวน 36,444 ล้านบาท

"รู้สึกดีใจที่ทางกทม.ได้ชำระหนี้ให้แก่บริษัท เพราะที่ผ่านมาบริษัทได้รับความกดดันจากการทวงถามหนี้จากกทม.มาตลอด โดยบริษัทมีต้นทุนที่ต้องจ่ายเงินพนักงานและมีหนี้ที่ต้องชำระด้วย หากกทม.ชำระล่าช้าหลังจาก 31 ต.ค.นี้เป็นต้นไป จะทำให้มีดอกเบี้ยเพิ่ม 200 ล้านบาท" นายคีรี กล่าว

'บีทีเอส' เฮ กทม.ลุยปิดหนี้ 'รถไฟฟ้าส่วนต่ขยายสายสีเขียว 3.6 หมื่นล้าน นายคีรี กล่าวต่อว่า หลังจากได้รับชำระหนี้จากกทม.แล้ว เบื้องต้นบริษัทจะนำเงินไปใช้หนี้ 15,000 ล้านบาท และอีกเงินอีกส่วนจะนำไปลงทุนในระบบรถไฟฟ้า 20,000 ล้านบาท ซึ่งจะต้องนำไปเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กองทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF)  พิจารณาก่อน

"บริษัทได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับ (MOU) ร่วมกับกทม.เพื่อแก้ปัญหาการผิดนัดชำระหนี้ที่เกิดในอนาคต ซึ่งจะช่วยเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนเพิ่มขึ้น" นายคีรี กล่าว

'บีทีเอส' เฮ กทม.ลุยปิดหนี้ 'รถไฟฟ้าส่วนต่ขยายสายสีเขียว 3.6 หมื่นล้าน

ทั้งนี้บริษัทจะดำเนินการวางบิลค่าจ้างเดินรถระบบ O&M ในโครงการไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว ในวันที่ 3 ของทุกเดือน จากนั้นกทม.และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (มหาชน) หรือเคที จะต้องชำระหนี้จำนวน 740 ล้านบาท ให้บริษัทตามปกติในทุกๆวันที่ 20 ของเดือน

อย่างไรก็ดีในกรณีที่หมดสัญญาสัมปทานในปี 2572 ทางกทม.ต้องจ่ายค่าจ้างเดินรถ O&M เป็นจำนวน 1,300-1,400 ล้านบาทต่อเดือน

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันกทม.ได้ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถระบบ O&M ส่วนต่อขยายที่ 1 สายสุขุมวิท ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และสายสีลม ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า

และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมัทรปราการ และช่วงหมอชิต-คูคต ให้แก่บริษัท จำนวน 36,444 ล้านบาท แบ่งเป็น เงินต้น 31,482 ล้านบาท และดอกเบี้ย 4,962 ล้านบาท ส่งผลให้ในปัจจุบันยังคงเหลือหนี้คงค้างที่กทม.ต้องชำระเพิ่มอีก 528 ล้านบาท

ที่ผ่านมาภาระหนี้รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวของกทม.ที่ชำระหนี้ให้บีทีเอส ดังนี้

1.หนี้งานระบบ ค่าจ้างเดินรถระบบ O&M ส่วนต่อขยายที่ 1 สายสุขุมวิท ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และสายสีลม ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมัทรปราการ และช่วงหมอชิต-คูคต ตั้งแต่เดือนมิ.ย.2564-ต.ค.2565 จำนวน 12,836 ล้านบาท โดยเป็นเงินต้น 10,128 ล้านบาท และดอกเบี้ย 2,708 ล้านบาท โดยบีทีเอสได้ฟ้องศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2565

2.หนี้งานระบบ ค่าจ้างเดินรถระบบ O&M ส่วนต่อขยายที่ 1 สายสุขุมวิท ช่วงอ่อนนุช-แบริ่ง และสายสีลม ช่วงสะพานตากสิน-บางหว้า และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-คูคต ตั้งแต่เดือนพ.ย.2565-ก.ย.2568 จำนวน 24,136 ล้านบาท โดยเป็นเงินต้น 21,883 ล้านบาท และดอกเบี้ย 2,253 ล้านบาท โดยเป็นหนี้ที่ไม่ได้มีการฟ้องร้อง

3.หนี้ค่าจ้างระบบไฟฟ้าและเครื่องกล (E&M) ส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-คูคต วงเงิน 23,312 ล้านบาท