KEY
POINTS
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามแนวทางแก้ไขปัญหาการจราจรและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่นั้น
ทั้งนี้จังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ แต่ระบบขนส่งสาธารณะและเส้นทางจราจรยังไม่สมบูรณ์เพียงพอต่อการรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ปัญหาหลักอยู่ที่โครงข่ายถนนสายหลักซึ่งมีทางเข้าเมืองเพียงสายเดียว คือทางหลวงหมายเลข 402 ที่มีจุดตัดทางแยกขนาดใหญ่ถึง 13 จุด ทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะช่วงสนามบินถึงตัวเมืองที่ใช้เวลาเดินทางกว่า 2 ชั่วโมง
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวทางระยะเร่งด่วน กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้กรมทางหลวงเร่งปรับปรุงจุดกลับรถบนทางหลวงหมายเลข 402 เพื่อเพิ่มความคล่องตัวของการจราจร พร้อมเดินหน้าโครงการพัฒนาทางเลี่ยงเมืองหมายเลข 4027 ให้เป็นทางเลือกใหม่ในการเข้าสู่ตัวเมือง โดยมี 3 โครงการสำคัญ คือ
1. ขยายช่องจราจรที่เหลืออยู่ให้ครบ 4 ช่อง ดำเนินการปี 2567–2569
2. พัฒนาเส้นทางเชื่อมถนนแนวใหม่เข้าสู่ท่าอากาศยานภูเก็ตโดยตรง เพื่อแยกกระแสจราจรระหว่างผู้โดยสารและประชาชนทั่วไป เริ่มดำเนินการปี 2568 แล้วเสร็จปี 2571 และ 3. ก่อสร้างถนนสายบ้านป่าคลอก–บ้านบางคู เพื่อเป็นเส้นทางใหม่จากพื้นที่ตอนเหนือเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ต
“เราต้องการให้คนภูเก็ตเห็นผลจริงในระยะสั้น เดินทางสะดวกขึ้น ปลอดภัยขึ้น นักท่องเที่ยวใช้เวลาน้อยลง ขณะเดียวกันเราก็กำลังวางรากฐานระยะยาวเพื่ออนาคตของจังหวัดนี้” นายพิพัฒน์ กล่าว
สำหรับแนวทางระยะยาว กระทรวงคมนาคมจะบูรณาการการพัฒนาในทุกมิติ ทั้งทางถนน ทางราง และทางอากาศ โดยมอบหมายให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เร่งรัดพัฒนาทางพิเศษสายใหม่ของจังหวัดภูเก็ต ในรูปแบบบูรณาการระหว่างมอเตอร์เวย์และระบบราง (MR-Map) จากท่าอากาศยานภูเก็ตไปยังหาดป่าตองและอำเภอเมือง แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่
โครงการทางด่วน ช่วงกะทู้–ป่าตอง ระยะที่ 1 ระยะทาง 3.98 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างปี 2569 เปิดบริการปี 2573 ส่วนโครงการทางด่วน ระยะที่ 2 ช่วงท่าอากาศยานภูเก็ต–กะทู้ ระยะทาง 30.62 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างปี 2570 เปิดบริการปี 2573 เมื่อแล้วเสร็จจะลดเวลาเดินทางจากสนามบินสู่หาดป่าตองจาก 1 ชั่วโมงครึ่งเหลือเพียง 20 นาที
ขณะเดียวกันยังมีแผนโครงการสะพานสารสินแห่งใหม่ เป็นโครงการใหม่ในรูปแบบสะพานขึงที่ไม่มีตอม่อในทะเล เพื่อให้เรือสำราญสามารถลอดผ่านไปยังท่าเรือน้ำลึกภูเก็ตได้สะดวก ถือเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของจังหวัด พร้อมทั้งเชื่อมต่อ โครงการท่าอากาศยานอันดามัน ที่จะเปิดให้บริการในปี 2573
อย่างไรก็ดีเส้นทางดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่าย MR-Map สาย MR9 สุราษฎร์ธานี–ภูเก็ต เชื่อมการเดินทางระหว่างอ่าวไทยและอันดามันอย่างไร้รอยต่อ
รวมถึงมีแผนพัฒนาทางรถไฟสายทับปุด–กระบี่ เพื่อเชื่อมโยงภูเก็ต–พังงา–กระบี่ ให้เป็นเครือข่ายคมนาคมเดียวกัน โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2573 และเปิดให้บริการปี 2577
นอกจากนี้หลังจากจัดการปัญหาการจราจรระยะสั้นแล้ว เป้าหมายต่อไปคือระบบขนส่งสาธารณะภายในเมืองภูเก็ต ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
โดยเตรียมพัฒนารถไฟฟ้ารางเบา (Light Rail) จากท่าอากาศยานภูเก็ตถึงห้าแยกฉลอง ระยะทาง 42 กิโลเมตร ในระยะแรกจะให้บริการด้วยรถบัสไฟฟ้า (EV Bus) ก่อน จากนั้นจะพัฒนาเป็นระบบรางเบาเต็มรูปแบบภายในปี 2574