KEY
POINTS
ปัจจุบันจังหวัดภูเก็ตถือเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในพื้นที่ติดปัญหาการจราจรติดขัดโดยเฉพาะในเวลาเร่งด่วน ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมยังคงผลักดัน “โครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต” หรือแทรมภูเก็ต เพื่อให้การเดินทางในภูมิภาคสะดวกมากขึ้น
ขณะนี้ “โครงการแทรมภูเก็ต” กลับล่าช้ากว่า 5 ปี เนื่องจากรัฐบาลที่ผ่านมาโดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีความเห็นว่า
หากมีการปรับรูปแบบการก่อสร้างจากรถไฟฟ้ารางเบาเป็นรถไฟฟ้าล้อยาง จะทำให้กรอบวงเงินลงทุนโครงการลดลงประมาณ 15,289 ล้านบาท และลดระยะเวลาการก่อสร้างจากเดิม 9 เดือน ส่งผลให้ต้นทุนต่ำลงและสามารถกำหนดอัตราค่าโดยสารที่ถูกลงได้
ที่ผ่านมารฟม.ได้นำเสนอการศึกษาเปรียบเทียบรูปแบบการดำเนินงานโครงการที่เหมาะสมของเทคโนโลยีรถไฟฟ้าประกอบด้วย 3 รูปแบบคือ รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อเหล็ก ,รถไฟฟ้ารางเบาแบบล้อยาง และระบบ ART (Autonomous Rapid Transit)
นอกจากนี้ยังมีแนวคิดกำหนดอัตราค่าโดยสารโดยแบ่งเป็น การเดินทางในเขตเมืองภูเก็ต การเดินทางนอกเขตเมือง และการเดินทางระหว่างเขตเมือง
สำหรับเทคนิคการก่อสร้างจะเลือกใช้วิธีการก่อสร้างที่ใช้ระยะเวลาน้อยที่สุดเพื่อลดผลกระทบ เช่น การใช้คอนกรีตหล่อสำเร็จ และการใช้ Launching Gantry เป็นต้น
ล่าสุดในยุคนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ยังคงผลักดันโครงการนี้ต่อ โดยรายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ความคืบหน้าโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง วงเงิน 35,350 ล้านบาท
ขณะนี้การรถไฟฟ้าขนส่งชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และกรมทางหลวง (ทล.) อยู่ระหว่างจัดเตรียมข้อมูลผลการศึกษาเปรียบเทียบเพื่อเสนอต่อกระทรวงคมนาคมพิจารณาเห็นชอบรูปแบบการลงทุนภายในเดือนตุลาคม 2568
ทั้งนี้ตามแผนจะประกาศเชิญชวนและคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนภายในเดือนกันยายน 2570 ก่อนออกแบบและก่อสร้างงานโยธา ผลิตและติดตั้ง งานระบบรถไฟฟ้า และทดลองเดินรถภายในเดือนกันยายน 2571 คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในเดือนธันวาคม 2574
ขณะเดียวกันที่ผ่านมาการรถไฟฟ้าขนส่งชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และที่ปรึกษา TURAC ได้ดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์โครงการฯ รวมทั้งทบทวนรายละเอียดโครงการฯ ตามข้อสั่งการของกระทรวงคมนาคม มาเป็นลำดับแรก
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าวต่อว่า ต่อมาในการประชุมเพื่อพิจารณาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบคมนาคมขนส่งในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานฯ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566
เบื้องต้นที่ประชุมมีความเห็นว่า หากก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชน จ.ภูเก็ต ซึ่งมีเส้นทางส่วนใหญ่อยู่บนถนน 402 ไปพร้อมกับการก่อสร้างโครงการถนนอื่นๆ จะทำให้เกิดปัญหาการจราจรอย่างมาก
“กระทรวงคมนาคมจึงให้เร่งรัดดำเนินการก่อสร้างถนน 4027 ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาปัญหาจราจร และใช้เป็นทางเลี่ยง ก่อนก่อสร้างโครงการระบบขนส่งมวลชน จ.ภูเก็ต ต่อไป” รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคม กล่าว
นอกจากนี้ยังพบว่าโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตฯ มีข้อจำกัดด้านการใช้พื้นที่บนถนนทางหลวงหมายเลข 402 ในบริเวณเขตเมือง ซึ่งมีลักษณะทางกายภาพที่ค่อนข้างแคบ
ดังนั้น รฟม. และ ทล. จึงได้พิจารณาศึกษาเปรียบเทียบแนวเส้นทางอื่นๆ เพื่อใช้เป็นเส้นทางเลี่ยงพื้นที่เขตตัวเมืองภูเก็ตแทนเส้นทางเดิม ตามข้อสั่งการของปลัดกระทรวงคมนาคม
สำหรับโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ต ระยะทางรวม 58.5 กม. มีรูปแบบรถเป็นรถไฟฟ้ารางเบา แบ่งการก่อสร้างเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 ช่วงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต – ห้าแยกฉลอง ระยะทางประมาณ 41.7 กม. จำนวน 21 สถานี
และระยะที่ 2 ช่วงส่วนต่อขยายเส้นทางจากจุดตัดระหว่าง ทล. 402 และ 4026 เพื่อเชื่อมต่อกับระบบรถไฟที่สถานีรถไฟท่านุ่นโครงการก่อสร้างทางรถไฟสายสุราษฎร์ฯ – ท่านุ่น ของ รฟท. ระยะทางประมาณ 16.8 กม. จำนวน 3 สถานี
อย่างไรก็ดีโครงการระบบขนส่งมวลชนจังหวัดภูเก็ตฯ มีแนวเส้นทางเริ่มจากสถานีท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตโดยแนวเส้นทางช่วงนี้เป็นโครงสร้างแบบยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 4031
จากนั้นลดระดับลงสู่ระดับดินที่ทางหลวงหมายเลข 4026 มุ่งหน้าเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 402 เพื่อเข้าสู่เมืองภูเก็ต จากนั้นแนวเส้นทางจะกลับขึ้นสู่ระดับดิน เข้าสู่เขตเทศบาลเมืองภูเก็ต และไปสิ้นสุดที่บริเวณห้าแยกฉลอง
เมกะโปรเจ็กต์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,129 วันที่ 7 - 10 กันยายน พ.ศ. 2568nbsp;