KEY
POINTS
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับการผลักดันนโยบายของกระทรวงคมนาคมภายในระยะเวลา 4 เดือนของรัฐบาลใหม่นั้น ภายหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เบื้องต้นได้ชูแนวทางการลดค่าครองชีพด้านการเดินทางให้เป็นมาตรการหลัก โดยเฉพาะการเดินทางผ่านรถโดยสารร้อนและรถโดยสารปรับอากาศ การลดค่าทางด่วนแต่ละเส้นทาง ตลอดจนการพิจารณาค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายอื่นๆ 40 บาทตลอดวัน นอกจากรถไฟฟ้าสายสีแดงและรถไฟฟ้าสีม่วง
ขณะนี้การพิจารณาแนวทางดังกล่าว รวมถึงการซื้อคืนสัมปทานรถไฟฟ้าจากเอกชน ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงคมนาคมไปศึกษาจุดสมดุลเพื่อให้เกิดความคุ้มทุน เพราะรัฐบาลที่ผ่านมาใช้เงินชดเชยรายได้ปีละ 2 หมื่นล้านบาทในการเดินหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งจะต้องพิจารณาให้รอบคอบที่สุด
“รัฐบาลนี้ต้องการแบ่งเบาภาระประชาชนทั้งกรุงเทพนและปริมณฑล ซึ่งแนวทางข้างต้นจะนำมาพิจารณาด้วย คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากมีการแถลงนโยบายจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ซึ่งรัฐบาลชุดนี้มีระยะเวลาเพียง 4 เดือน ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้รวดเร็ว” นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ความชัดเจนของโครงการรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งก่อนหน้านี้คณะรัฐมนตรีมีมติ ดำเนินการสิ้นสุดมาตรการในเดือนกันยายน 2569
อย่างไรก็ดีเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ต้องดูว่าสิ้นสุดตามรัฐบาลหรือไม่ เพราะต้องมีการทำความเข้าใจอีกครั้ง เนื่องจากเป็นมาตรการรัฐบาลก่อน ซึ่งจะถูกนำมาหารือในคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการต่อยอดให้ครอบคลุมสายอื่น ๆ และสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน
ส่วนกรอบเวลาที่ต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29–30 กันยายนนี้ ทำให้การนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม. นัดแรกอาจไม่ทันการณ์ ส่งผลให้มีโอกาสที่ค่าโดยสารจะกลับไปใช้อัตราเดิมเป็นเวลา 1–2 สัปดาห์ก่อนประกาศนโยบายใหม่
“เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล เราจำเป็นต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุม ครม. อีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่าจะทำอะไรให้ได้มากกว่าที่เป็นอยู่” นายพิพัฒน์ กล่าว