รู้จัก พิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รมว.คมนาคมคนใหม่ ภูมิใจไทย

07 ก.ย. 2568 | 07:52 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ก.ย. 2568 | 08:00 น.

รู้จักพิพัฒน์ รัชกิจประการ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการคมนาคมคนใหม่ ภายใต้รัฐบาล อนุทิน คุมบิ๊กโปรเจ็กต์ หลัง เคยคุมท่องเที่ยว แรงงานมาอย่างโชคโชน

KEY

POINTS

  • นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ มีพื้นฐานมาจากการเป็นนักธุรกิจในแวดวงพลังงาน (พีทีจี เอ็นเนอยี) ก่อนเข้าสู่เส้นทางการเมือง
  • เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
  • มีผลงานเด่นในการออกมาตรการฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังสถานการณ์การระบาดของโควิด-19

 

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "นานอนุทิน ชาญวีรกูล" เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32วันนี้ (7 ก.ย.2568) เวลา 11.30 น. ที่ทำการพรรคภูมิใจไทยราชกิจจานุเบกษา ขณะโผคณะรัฐมนตรี(ครม.)  ได้มีการจัดตั้งไว้100% โดยหนึ่งในนั้นตำแหน่งที่น่าสนใจ คือกระทรวงคมนาคม โดยมี  “นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ” เป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

สำหรับนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2498 (ปัจจุบันอายุ 68 ปี) ที่อำเภอเทพา จังหวัดสงขลาเป็นบุตรของ นายสุทัศน์ และนางกุยเฮียง รัชกิจประการ และเป็นพี่ชายของนายพิบูลย์ รัชกิจประการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล 2 สมัย สังกัดพรรคภูมิใจไทย และอดีตนายกเทศมนตรีจังหวัดสตูล

ประวัติการศึกษารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงระดับปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เส้นทางการเมืองเดิม นายพิพัฒน์ สืบทอดธุรกิจครอบครัว นำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ มาจำหน่ายให้กลุ่มเรือประมงในเขตน่านน้ำอันดามัน ต่อมาในปี 2535 ได้เริ่มธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน และจดทะเบียนธุรกิจของตนในตลาดหลักทรัพย์ในชื่อ พีทีจี เอ็นเนอยี เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2538 โดยเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด เป็น บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด (มหาชน) และเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ตามลำดับ

พิพัฒน์ รัชกิจประการ

นายพิพัฒน์ เริ่มต้นงานการเมืองโดยการชักชวนของ วัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลพลเอกสุจินดา คราประยูร เมื่อครั้งก่อตั้งพรรคมหาชน เมื่อปี 2541 โดยมีเป้าหมายคือ เพื่อสร้างฐานการเมืองในพื้นที่ภาคใต้ พร้อมรับตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรค

หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไปปี 2562 นายพิพัฒน์ ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สังกัดพรรคภูมิใจไทย ซึ่งพรรคภูมิใจไทยได้เข้าร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และมีพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นอกจากนี้ นายพิพัฒน์ ยังเป็นกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อีกด้วย

ผลงานเด่นของนายพิพัฒน์ คือ การพาประเทศไทยฝ่าวิกฤติการลดจำนวนลงของนักท่องเที่ยว สืบเนื่องจากกรณีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยในปี 2562 (ช่วงก่อนเกิดการระบาด) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมแล้วกว่า 39,916,251 ราย แต่พอถึงช่วงที่เกิดการระบาดในปี 2563 จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเหลือเพียง 6,725,193 รายเท่านั้น

นายพิพัฒน์ เป็นผู้วางแผนและออกนโยบายต่าง ๆ ที่ช่วยฟื้นฟูการท่องเที่ยวของไทยให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง จนในปี 2566 นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 12 มิ.ย. มีจำนวนนักท่องเที่ยวสูงถึง 11,899,199 ราย (ข้อมูลจากสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา)ในปี 2564 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และเป็นคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค ก่อนที่ในปี 2566 ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน

และในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานต่อมาพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาลและในที่สุดได้เป็นว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมดังกล่าว